#อากาอามุ
Warning: mention possible self-harm
[Synesthesia] - part 1 & 2
พี่ชูคนมึน เต๊าะน้องเช้ากลางวันเย็น
www.readawrite.com/c/f02b374681...
@iatetissue.bsky.social
ทิชชู่เปียก TH/ENG | artist/writer — ย้ายบ้าน
#อากาอามุ
Warning: mention possible self-harm
[Synesthesia] - part 1 & 2
พี่ชูคนมึน เต๊าะน้องเช้ากลางวันเย็น
www.readawrite.com/c/f02b374681...
#ฮิโระเรย์ ft. #อากาอามุ #สก็อตช์ไรย์ 🔄
3p Whiskey trio🥃🔄หมุนโพ, กาว
[Pray Tell] - part 7
มีคนได้นอนกับฮาโระแน่!🫵🔴
.
//ตอนหน้าคงจบแหละ(พูดกะตัวเองมา7รอบละ)
ท้อสุด ๆ กะคำว่าฟิกสั้นจนจะเปลี่ยนไปเปิดเรื่องยาวละนะ 55555555
www.readawrite.com/c/554d6fdcad...
#ฮิโระเรย์ ft. #อากาอามุ #สก็อตช์ไรย์ 🔄
3p Whiskey trio🥃🔄หมุนโพ, กาว, 5 เสือ🌸ยังอยู่
[Pray Tell] - part 1-6
มหากาพย์ short fic ที่ดูทรงจะไม่ short ตามที่หวังไว้ 55555555 ขอนุยาดแปะทีเดียว 6 ตอนเลยแล้วกันค้าบบบ
www.readawrite.com/c/3974865889...
#อากาอามุ -ft. Past #ฮิโระเรย์ 🥃
Whiskey trio, dead char, past relationship
[Jealousy]
กินให้อร่อยนะค้าบบบ
www.readawrite.com/c/a10ba9cb3b...
Matsuda Jinpei 22 vs 26 yrs old
พรี่ย์จินเปย์หล่อระเบิดระเบ้ออออ
08.06.2025 13:13 — 👍 0 🔁 0 💬 0 📌 0Morofushi Hiromitsu 22 vs 26 yrs old
ตกหลุมด้อมโคนันจนได้ ;-;
น้องฮิโรมิสึโตมาอย่างดีจริง ๆ 😭
ไม่รู้มีใครเปิดยัง ขอเปิดเลยละกัน5555
🕵️ ด้อมโคนันใครย้ายมาจากนกฟ้าเชิญโควทแนะนำตัว+หาเพื่อนได้เลยคับ นี่หาใครไม่ค่อยเจอเลย มาสร้างชุมชนเมืองเบกะกันด่วนๆๆ
#ไผ่มาย 🐺🦁🔄 *ใครฟิกซ์โพสุด ๆ ข้ามข่ะ เพราะเข้าข่ายไม้ไผ่เหมือนกัน*
[ทุกครา] part 6
มหากาพย์มาต่อแน้วววว เกียมทิชชู่ข่ะะะะะ
//จิงๆก็โพไผ่มายแหละ แค่ไผ่(ญ)จับมาย(ช)กด
www.readawrite.com/c/e586576196...
มหากาพย์ #ไผ่มาย เปิดเรื่องแยกแล้วนะคร้าบบบ
//อย่าถือสาที่ปกกาว ๆ ที่ลิงอย่างเลาวาดเลย รอบนี้ตั้งจัยลงสีสุด ๆ
www.readawrite.com/a/5f01fb7fe8...
มหากาพย์ #ไผ่มาย เปิดเรื่องแยกแล้วนะคร้าบบบ
//อย่าถือสาที่ปกกาว ๆ ที่ลิงอย่างเลาวาดเลย รอบนี้ตั้งจัยลงสีสุด ๆ
www.readawrite.com/a/5f01fb7fe8...
#ไผ่มาย #PhaiDei 🐺🦁
Tag: au soulmate - choose not to warn
[ทุกครา] - update part3
ลืมมาแปะในนี้
www.readawrite.com/c/01eb10d0d0...
ก็เพราะไลท์เตอร์ตอบตกลงตั้งแต่เดตครั้งที่สอง ทำให้เบลกำเดาไหลไม่ได้นอนทุกครั้งที่อีกสองคนมาค้างยังไงล่ะ!!!
.
.
-end-
ขอบคุณที่อ่านค่ะ! ยาวนานข้ามปีมากกกกก
ไว้เจอกันฉบับเต็มในรอร(ยาวกว่านี้)นะคะ! เกียมทิชชู่รอเลย!
“ร-เรื่องแบบนี้ ขอเวลาคิดหน่อยเถอะ” ไลท์เตอร์พยายามคงหน้าให้นิ่งไว้แม้ใบหูจะแดงแปร๊ดไปแล้ว
“งั้นคราวหน้าที่นายเข้าเมือง พวกเรามาเดตกันอีกรอบแล้วกัน จะได้ให้เวลานายคิดด้วย ไม่ต้องรีบหรอก” ไวส์ยิ้มหวาน
.
.
สุดท้ายแล้ว หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เบลกับไวส์ก็ตัดสินใจทำกำแพงกันเสียงระหว่างสองห้อง
ทำไมน่ะหรือ?
ไลท์เตอร์รู้สึกเหมือนโดนตีหัวจนมึนงงไปหมด
“เอ๊ะ?” เจ้าตัวกะพริบตาปริบ
“เอ๋?” บิลลี่เองก็กะพริบตาปริบไปด้วย
“แต่ฉันเห็นว่าบิลลี่ก็ชอบนายมากเหมือนกัน แถมยังมาก่อนด้วย เลยคิดว่า เรื่องแบบนี้ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า… หรือจะคบแบบสามคนก็ไม่ติดนะ” ไวส์ยิ้มกว้าง เสนอทางเลือกใหม่
“เอ๋!!!???” กลายเป็นบิลลี่ที่แปลกใจที่สุด ก่อนจะโดนน้องรักตีไหล่เบา ๆ แก้เขิน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรน่ะ เบลชอบนายจะตายไป”
ไลท์เตอร์ประมวลผลสามวิ ก่อนเขย่าตัวอีกฝ่าย
“นั่นยิ่งแย่เลยไม่ใช่เหรอ!?”
“อูย~! ใจเย็นหน่อย ฉันหมายถึง เบลชอบนาย เลยเชียร์ให้ฉันจีบนายซักทีหลังเล็งมานานต่างหาก เห็นบอกว่าอยากได้พี่ชายเท่ ๆ แบบนี้ เป็นพี่เขยก็ยังดี… ชิ… แล้วฉันไม่เท่ตรงไหนกัน?”
ประโยคสุดท้าย ไวส์บ่นเบา ๆ กับตัวเอง
“อ้อ งั้นคงจะแฮปปี้น่าดู… นายหิวน้ำมั้ย? หรืออยากให้ฉันช่วยพาไปห้องน้ำรึเปล่า?” ไวส์เมินเรื่องเบล แล้วกลับมาสนใจไลท์เตอร์
“อืม ก็หิวน้ำอยู่— ไม่สิ! นายจะไม่เคลียร์กับเบลหน่อยเหรอ!?” ไลท์เตอร์แทบจะเขย่าคออีกฝ่าย
เขาไม่อยากให้พร็อกซี่ทั้งสองทะเลาะผิดใจกันเพราะเขานะ! เขารักทั้งคู่เป็นเพื่อนที่แสนมีค่าทั้งนั้น!!!
“งืม ๆ เคลียร์ไรกันเหรอ?” บิลลี่งึมงำตื่นขึ้นมา
เธอกลับเข้าห้องตัวเองพร้อมเสียงกรี๊ดดังมาแว่ว ๆ ผ่านกำแพงที่ติดกัน
ทำไมมันฟังดูมีความสุขแปก ๆ?
ไม่ใช่สะเทือนใจจนบ้าไปแล้วนะ?
“เอ่อ… ไวส์?” ไลท์เตอร์พยายามปลุกเจ้าบ้าน
เรื่องบิลลี่ไว้ทีหลัง เพราะพี่น้องน่าจะต้องเคลียร์กันเองก่อน
“หือ?” เจ้าบ้านงัวเงียตื่นขึ้นมานั่ง
“เมื่อกี๊เบลเปิดประตูมาเห็น…” ไลท์เตอร์เล่าอย่างกระอักกระอ่วน
กระนั้น เจ้าตัวกลับดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
มุมปากยกยิ้มขึ้นด้วยความสุข ก่อนหลับตาลง
อยู่แบบนี้ต่ออีกสักพักก็ดีเหมือ—
ปึง!!!
“พี่! หนูกลับมาแล้—โอ๊ะ!”
เสียงเจื้อยแจ้วตามหลังเสียงเปิดประตูจบลงห้วน ๆ กะทันหัน
“เอ่อ หนูไม่เห็นไม่รับรู้ไม่มีใครในห้องหรือเกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น ประตูก็ไม่เคยเปิด ตาหูจมูกปากก็จะไม่เปิดไม่เล่าไม่เก็บไปฝันไม่ติดตาไม่แพร่งพรายเด็ดขาด” เบลแร็ปรัวเร็วรวดเดียวจบ ตบท้ายด้วยปิดประตูดังปัง
บนเตียงซึ่งสองหนุ่มหนึ่งหุ่นยนต์นอนกอดก่ายกันนั้น ช่างอึดอัดเสียไม่มี
เรือนร่างระบมเปี่ยมกล้ามเนื้อพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างรวดร้าวเพื่อลูบใบหน้าตนเอง ก่อนจะล้มลงไปใหม่ แล้วมองคนขนาบซ้ายขวา
ฝั่งหนึ่งคือรุ่นพี่ที่เขาเคารพรักมานาน
ส่วนอีกฝั่ง ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนที่เขาไว้ใจที่สุด -ถึงไม่คิดว่าคนพี่จะเกินเลยกับเขามาถึงขั้นนี้ก็เถอะ-
แต่…
คิด ๆ ไปแล้ว ก็เหมือนได้นอนอยู่ท่ามกลางของขวัญล้ำค่าเลยแหละ
รุ่นน้องปีนเกลียวกระซิบเป็นคำสุดท้าย ก่อนเริ่มปรนเปรอตนเองตามใจชอบ
เจ้าบ้านเองก็เผลอต่อเส้นประสาทพลาดไปสองสามครั้งเพราะถูกกวนสมาธิ สร้างความล่าช้าลงไปอีก
ทว่า สุดท้ายแล้ว เขาก็ทำสำเร็จได้ค่อนข้างเร็ว
แน่นอนว่าคืนนั้นทั้งคืน บิลลี่ตบะแตกจนแทบจะลืมทะนุถนอมน้องรักที่ยั่วยวนไม่หยุดเลยทีเดียว
.
.
เช้าวันใหม่ ไลท์เตอร์ตื่นมาด้วยอาการปวดเอวมากถึงมากที่สุด
ไลท์เตอร์กลับทรมานทรกรรมเขาอย่างเชื่องช้า
เริ่มจากสอดใส่ของเล่นเข้าไป และเล่นกับตัวเองทั้งที่นั่งอยู่บนหน้าท้องเขา ระหว่างที่เขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย
นรก…
นรกมาก…
บิลลี่ทำอะไรผิด?
“ไว้ต่อเส้นประสาทเสร็จ ผมจะนอนนิ่ง ๆ ให้ลองทุกของเล่นเลย”
ไลท์เตอร์หยิบของเล่นคู่หนึ่งมาเล่นกับยอดผลไม้สวยหวานบนอก ส่งเสียงร้องหวานออกมาแกล้งรุ่นพี่
“เพราะงั้น ระหว่างนี้ก็เป็นเด็กดีนะ?”
ก่อนกลับมานั่งบดเบียดกล้ามท้องเหล็ก
ช่างเป็นวิวที่วาบหวิวอันตรายนัก
ในจังหวะที่เขาจะเอื้อมออกไปคว้าแขนเพื่อห้าม สองแขนก็ดันขยับไม่ได้ขึ้นมาเสียงั้น
สาเหตุหรือ?
พร็อกซี่ที่ยังง่วนอยู่กับการต่อเส้นประสาทมั่วซั่วไง!
“โทษที นายดูวิวไปก่อนแล้วกัน น่าจะอีกพักใหญ่เลย” ไวส์พูดประหนึ่งกำลังซ่อมคอม
บิลลี่เหวอแล้วเหวออีก มองรุ่นน้องที่กระตุกยิ้มเย้ายวน
ทว่า แทนที่จะเมตตาช่วยเหลือกัน—
หลังเสร็จกิจไปสองสามรอบ ดูท่าเชื้อเพลิงกามารมณ์จะลุกลามจนดับไม่อยู่เสียแล้ว
“งั้น นายนั่งทับบิลลี่ไว้ระหว่างฉันเชื่อมเส้นประสาทให้แล้วกัน” เสียงของพร็อกซี่ฟังดูสนุกแปก ๆ
หน้าจอบิลลี่ได้แต่แสดงอาการเหวอ จ้องมองน้องรักชโลมของเล่นชิ้นใหม่สีหวานสดสวยจนชุ่มด้วยริมฝีปากฉ่ำวาว
“ด— เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!”
“ไม่เดี๋ยว” ไลท์เตอร์ก้มลงไปจูบ และเลียเส้นประสาทเทียมบนคอของรุ่นพี่จนสะดุ้ง—
กว่าแอนดรอยด์จะประมวลผลคำพูดของสองมนุดที่แชร์เซลล์สมองจบ ไลท์เตอร์ก็เป็นฝ่ายรับน้ำของบิลลี่มาราดรดลงตามแผงอกเหล็กที่ร้อนจนแทบไหม้เรียบร้อยแล้ว
“เอาละ ฉันจะเชื่อมเส้นประสาทสังเคราะห์กับของเล่นให้ ขอเวลาแป๊บนะ” ไวส์ยิ้มหวานไม่ถามความเห็นบิลลี่
ขณะเดียวกัน ไลท์เตอร์ก็มัดมือชก ผลักรุ่นพี่ลงนอนราบ ตามด้วยเป็นฝ่ายถอดกางเกงรุ่นพี่ แล้วนั่งคร่อมทับลำตัวไว้พลางหยิบของเล่นมาชิ้นหนึ่ง
ไวส์เอ่ยหน้าตาเฉยขณะดื่มขวดของตัวเอง
ไลท์เตอร์เกือบจะสำลักน้ำ แต่ยังดีที่ไหวตัวกลืนทัน
“ค่อย ๆ ดื่ม” บิลลี่ลูบหลังน้องรักอย่างเป็นห่วง “ถ้านายไม่ไหวแล้ว คืนนี้จะพอแค่นี้ก็ได้นะ”
ไลท์เตอร์กะพริบตาปริบ หลบสายตารุ่นพี่ ก่อนตอบเสียงเบา
“ใครว่าไม่ไหว… ยังลองของเล่นไม่ถึงครึ่งเลย”
นั่นทำให้บิลลี่เป็นฝ่ายทำตาโตปริบ ๆ แทน
“เอ้า น้ำ” ไวส์หัวเราะขบขัน ส่งน้ำให้บิลลี่
เสียงหอบหายใจดังแข่งไม่ขาด
แล้วส่วนที่เชื่อมติดกันก็ถูกถอน
เจ้าบ้านถอดถุงใช้แล้วออกมัดแล้วทิ้ง ก่อนเดินไปหยิบน้ำมาสามขวด
“ขอบใจ! เอ่อ แต่ฉันคงไม่ต้องใช้หรอกมั้ง?” บิลลี่ประคองไลท์เตอร์ขึ้นพิง
แอนดรอยด์หนุ่มรับน้ำจากไวส์มาขวดหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ป้อนคนที่น่าจะเหนื่อยที่สุดในวันนี้
“ฉันว่านายก็ต้องใช้เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ทำให้ตัวเครื่อง overheat เพราะหลังจากนี้น่าจะต่อกันอีกยาว”
หนึ่งตัวเครื่องยนต์ปั่นใบพัดภายในระบายความร้อนระอุสะพัดซึ่งรุกรานทั่วเรือนร่างโลหะ
กลิ่นคาวกามผสมเข้ากับกลิ่นชื้นเหงื่อและกลิ่นเหล็ก
กว่าหลายนาทีที่ความเร็วเร่งเร้าขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียงทุ้มแหบแห้งขาดห้วงเป็นระยะ
ในที่สุด ประกายพลุขาวโพลนก็ปะทุระเบิดรุนแรงภายในหัวสองหนุ่มพร้อมกัน
ก้อนเนื้อกลมแน่นได้รูปถูกกระแทกกระทั้นเข้าเรื่อย ๆ กระทั่งหยุดลงในส่วนที่ลึกสุดใจ
ได้ยินดังนั้น ไวส์ก็ยิ้มหวานจนตาปิด
“ได้เลย”
ความเร็วแปรเปลี่ยนกะทันหัน
ร่างแสนงดงามถึงกับผวา ฝังใบหน้าไปกับรุ่นพี่แน่น
ฝ่ามือเหล็กที่เหมือนจะนวดผ่อนคลาย กลับเริ่มกลายเป็นการกระตุ้นเร้าสัมผัสให้ไวขึ้นเท่าตัว พร้อมกับที่อีกสองฝ่ามือคว้าจับเอวบางยึดเหนี่ยวไว้จนขึ้นรอยแดง
เสียงเฉอะแฉะหยาบโลนผสานไปกับเสียงครวญครางแหบหวานระรื่นหู
สองลมหายใจหอบกระชั้นถี่
ปลายนิ้วกดลงไปเหนือตำแหน่งกระดูกหัวหน่าวจนเรือนร่างรูปงามสะดุ้ง
“เร็วไปช้าไปนายก็ต้องบอกนะ” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหูพร้อมการขบเม้มและเป่าลมอุ่นร้อน
ดวงตาประดับประกายแดงสวยหลับสนิท พยายามเมินสัมผัสหยอกล้อกระตุ้นที่มากเกินไป
ทว่า สุดท้ายอดีตนักมวยกลับทนการยั่วยุที่มาพร้อมการเคลื่อนไหวแสนเชื่องช้าไม่ไหวเสียเอง
“ร—เร็วหน่อย” ไลท์เตอร์กัดฟันเอ่ยขอออกมา
ได้ยินดังนั้น ไวส์จึงค่อย ๆ ขยับเข้าออกด้วยความเชื่องช้าต่อเนื่อง— เข้าไปสุด ออกมาเกือบสุด และขยับเข้าไปให้ลึกแนบแน่นกว่าเก่า
นิ้วมือของไลท์เตอร์กระตุกจิกผ้าปูเป็นระยะ พยายามทำความคุ้นชินทีละนิด
ขณะเดียวกัน บิลลี่ก็เอ่ยชมไม่ขาดปากพลางถามไถ่ความรู้สึกตลอดเวลา
“โอเคมั้ยไลท์?”
“อือ”
“เจ็บรึเปล่า?”
“ไม่”
ทั้งคู่ถามคำตอบคำจนไวส์อดไม่ได้…
“จุกมั้ย? มันน่าจะเข้าไปถึงตรงนี้เลยนะ”