ขออนุญาตยืม #ออลอิซา ในการโปรโมทนิยายหน่อยนะคะ
เป็น au แฟนตาซี โรงเรียนเวทมนตร์ ชิล ๆ สบาย ๆ ดราม่าปะปนบ้างเล็กน้อยพอให้มีรสชาติ
ท่านใดสนใจ จิ้ม : www.readawrite.com/a/7c77583cc3...
@misfortune4869.bsky.social
ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านที่ผ่านเข้ามา เราชื่อ 'ฟอร์จูน' แม่ ๆ น้องอายเมคเฟรนด์กันได้ งานหลักชิป ออลอิซา งานรองชิป ซาเอะอิซา รินอิซา เนสอิซาෆ ෆ ෆ⸒⸒⸜( ˶'ᵕ'˶)⸝
ขออนุญาตยืม #ออลอิซา ในการโปรโมทนิยายหน่อยนะคะ
เป็น au แฟนตาซี โรงเรียนเวทมนตร์ ชิล ๆ สบาย ๆ ดราม่าปะปนบ้างเล็กน้อยพอให้มีรสชาติ
ท่านใดสนใจ จิ้ม : www.readawrite.com/a/7c77583cc3...
モノトーン落書きシリーズ
17.01.2025 18:47 — 👍 99 🔁 15 💬 0 📌 0昼寝をしていたらショタ41とngに
起こされる幸せroさん
หวัดดีค้าบ เรียกเราฟอร์จูนได้เลยน้า เป็นแม่น้องอาย ชิปออลอิซา เขยโปรดพี่น้องบ้านอิโตชิ บรรยาย os/sf แต่งลงในนี้ ส่วนฟิคแชทกำลังอยู่ในช่วงกำลังเขียนให้จบแล้วลงทีเดียว รินอิซาฟีลกู๊ดฟีลใจ ธงเขียวแบบยกมาทั้งป่า ชิปเดียวกันทักมาคุยมาหวีดด้วยกันได้นะ
14.11.2024 13:49 — 👍 0 🔁 0 💬 0 📌 0"ถ้าเธอยอมเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งตัวเองเพื่อคนอื่น ผมก็จะเสียสละคนอื่นเพื่อปกป้องเธอ" คิดไม่ออกว่าประโยคนี้เหมาะกับคู่ไหนในออลอิซาอะ อยากลองแต่งแบบยอมสารเลวเพื่อเธอคนเดียว
07.11.2024 07:25 — 👍 1 🔁 1 💬 0 📌 0"ลาก่อนโย อย่าโทษตัวเองที่โน้มน้าวพี่ไม่สำเร็จ"
"ลาก่อนครับพี่ซาเอะ"
สองขาพลันอ่อนแรงลงยามเมื่อแผ่นหลังแกร่งนั้นหายไปจากสายตาเพราะถูกมหาสมุทรบดบัง ยกของดูต่างหน้าจรดแนบหน้าผากพลางสะอึกสะอื้นร้องไห้แทบขาดใจอยู่ตรงนั้นอย่างมิอาจฝืนกลั้น
"ผมรักพี่นะ ขอให้พี่เดินทางปลอดภัย แล้วสักวันขอให้เราได้เจอกันอีก...."
end.
"พี่ซาเอะ"
"พี่ให้คำถามสุดท้าย"
"...."
"...."
"ผมขอยืนส่งพี่จนลับสายตาได้ไหม"
ครานี้คนพี่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ทว่ากลับถอดเสื้อตัวนอกของตนออกเพื่อนำไปคลุมบนไหล่บาง มือซ้ายเสยกลุ่มผมที่บดบังแผ่นหน้าผากพลางกดจุมพิตลงไปแผ่วเบา
"พี่ซาเอะ"
"ยื้อพี่ไปก็ไม่ช่วยให้พี่เปลี่ยนใจหรอกนะ"
"ผมรู้ พี่ว่าถ้าผมใส่มัน ผมจะดูดีแบบพี่หรือเปล่า"
"สำหรับพี่ ไม่ว่าจะแบบไหนก็เป็นโยอยู่ดี"
สำหรับซาเอะ โยอิจิงดงามอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด
"ขอบคุณนะโย ที่มาส่งพี่ และขอโทษที่ต้องปล่อยให้เดินกลับคนเดียวทั้ง ๆ ที่เรามาด้วยกัน"
"พี่ซาเอะ"
"หืม?"
"ผมขอกำไลข้อมือกับสร้อยของพี่ได้ไหม"
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
กล่าวจบจึงเอื้อมมือไปปลดเครื่องประดับที่ถูกร้องขอของตนออกพลางยื่นให้คนตรงหน้า สองมือเล็กรับมาและกอบกุมมันไว้อย่างหวงแหน
"พี่ตัดสินใจแล้ว และพี่จะไม่เปลี่ยนใจ ขอโทษที่อยู่กับเราไม่ได้"
มือหนาทาบทับลงผมกลุ่มสีเข้มพลางขยับลูบแผ่วเบา ซาเอะรู้ดีว่าการกระทำนี้ไม่ได้ช่วยให้เจ้าตัวดื้อของตนหายเศร้า แต่เขาก็อยากทำมัน
ระหว่าง 'ความรัก' และ 'ความตาย' สิ่งใดหนอสำคัญกว่า
บัดนี้ได้ประจักษ์แจ้งแล้วว่า 'ความตาย' ได้ถูกเลือก และ 'ความรัก' ถูกทอดทิ้ง
ราวกับว่าซาเอะได้ตระเตรียมทุกอย่างมาเพื่อวันนี้ วันที่เจ้าตัวตั้งใจจะบอกลาโลกของคนเป็นไปสู่โลกแห่งความตาย พร้อมมอบทุกสิ่งอย่างที่ตนมีให้แก่ผู้ที่อยู่ต่อได้ใช้ประโยชน์
"พี่ซาเอะ"
"ว่าไง"
"ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
แม้อิซางิ โยอิจิจะเป็น 'ผู้ชนะ' ในเกมวิ่งไล่จับ ทว่าตอนนี้ภายในใจกลับรู้สึกว่าตนคือ 'ผู้แพ้'
ผู้ที่พ่ายแพ้และล้มเหลวในการฉุดรั้งใครสักคนให้มีชีวิตอยู่ต่อ
"...."
"ส่วนรหัส พี่เขียนใส่กระดาษใบเล็ก ๆ ไว้ให้ในกระเป๋าแล้ว หาเอาเองนะ ส่วนอยากเอาเงินไปใช้ทำอะไรก็ตามใจเราเลย โย"
"...."
"บ้านของพี่ จะขายทิ้ง ปรับแต่ง หรือดูแลต่อก็ได้ จะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ใช้ได้ตามสบาย กุญแจแขวนอยู่ตรงไหนเราคงรู้"
"...."
"ทั้งหมดนี้ พี่ยกให้เรานะ"
เสียงหอบหายใจอันเหนื่อยอ่อนดังคู่ไปกับเสียงรอบข้าง ทั้งคู่หย่อนตัวนั่งลงบนผืนทรายให้เรี่ยวแรงฟื้นคืน ในขณะเดียวกัน ซาเอะก็รอฟังคำตอบจาก 'ผู้ชนะ'
"ผมขอเงินพี่ได้ไหม"
"พี่วางกระเป๋าเงินไว้บนโต๊ะหัวเตียง ไม่มีเงินสด มีแต่บัตรเครดิต บัตรล่างสุดเป็นบัญชีเงินเก็บห้ามใช้ ส่วนบัตรอันถัดมาเป็นบัญชีที่ถอนมาใช้เรื่อย ๆ ตามความจำเป็น"
สิ้นคำพูดนั้น สองขาของคนอายุน้อยกว่าก็รีบวิ่งออกไปพร้อมเสียงหัวเราะเป็นสัญญาณว่าเกมการเดิมพันได้เริ่มขึ้นแล้ว คนพี่คลี่ยิ้มบางก่อนจะเริ่มออกตัววิ่งตามเพื่อจับเป้าหมายให้ได้ภายในเวลากำหนด
แต่ช่างน่าเสียดาย ที่เกมนี้อิโตชิ ซาเอะคือ 'ผู้แพ้'
"อยากได้อะไรล่ะเรา"
"พี่ซาเอะ เรามาเล่นวิ่งไล่จับกันไหม สลับกัน ผมไล่พี่ พี่ไล่ผม"
หนึ่งในสองเอ่ยถามพร้อมทั้งหันมาหาคู่สนทนา ใบหน้าเรียวปรากฏรอยยิ้มแสนซน และช่างโชคดีที่นภาวันนี้ไร้เมฆ แสงจันทร์นวลผ่องนั้นจึงสาดกระทบให้มองเห็นใบหน้านี้ได้อย่างชัดเจน
"คนชนะจะได้อะไรล่ะ"
"ขออะไรจากคนแพ้ก็ได้ 1 อย่าง เป็นไง"
"ถ้าจับไม่ได้สักทีล่ะ"
"กำหนดเวลา 3 นาที หวังว่าพี่คงไม่เหนื่อยไปซะก่อนนะ"
เสียงฝีเท้าของสองบุคคลกำลังย่ำเหยียบผืนทรายนวลละเอียด ฝากรอยเท้าเป็นทางยาวรอเวลาให้ผืนน้ำกลบฝัง สองมือสอดประสานแนบแน่นราวกับว่าไม่อยากให้เราสองแยกจากกัน
เส้นผมสีแดงระเรื่อและสีนิลพริ้วไหวไปตามทิศทางลม สองเท้าหยุดยืนพลางทอดมองออกไปยังมหาสมุทรตรงหน้าไร้ซึ่งเสียงเอ่ยกล่าวเพื่อจดจำความรู้สึกในช่วงเวลานี้ให้ได้นานที่สุด
#ออลอิซา #ซาเอะอิซา #seis
⚠️ : ooc, au-ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล, การฆ่าตัวตาย
______
ระหว่าง 'ความรัก' และ 'ความตาย' สิ่งใดหนอสำคัญกว่า
ผืนทะเลยามค่ำคืนแม้น่าหวาดกลัวเพราะมืดมิด ทว่ายามเมื่อแสงเดือนสาดส่องกลับงดงามดั่งอัญมณีนับแสน ในขณะที่เสียงลมรำเพยพัดกระทบยอดไม้ประสานเสียงคลื่นกระทบฝั่ง
ความปรารถนาประการสุดท้ายหากเทพเทวามีจริงและกำลังรับฟัง ขอให้เราสองได้อยู่คู่กันตลอดกาล แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากจาก
แด่เธอผู้เป็นเจ้าของความรัก
รักแรก รักเดียว รักสุดท้ายตลอดไป
ตราบชั่วกัลปาวสาน
end.
มือเรียวเอื้อมออกไปหยิบถ้วยชาขึ้นมาประคองไว้เสมอ-อกพลางยื่นออกมาข้างหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ
"ข้า อิซางิ โยอิจิ ขอให้คำมั่นว่าจะรักและเคารพ อิโตชิ ริน ตลอดชีวิต จะสนับสนุนกันและกัน และจะคอยอยู่เคียงข้างจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่"
"ข้า อิโตชิ ริน ขอให้คำมั่นว่าจะรักและเคารพ อิซางิ โยอิจิ ตลอดชีวิต จะสนับสนุนกันและกัน และจะคอยอยู่เคียงข้างจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่"
"อิซางิ โยอิจิ นายยินดีที่จะรับ อิโตชิ ริน คนนี้เป็นสามีของนายหรือเปล่า"
.
.
.
"อิซางิ โยอิจิ ยินดีที่จะรับ อิโตชิ ริน เป็นสามีครับ"
"อิโตชิ ริน นายยินดีที่จะรับ อิซางิ โยอิจิ คนนี้เป็นสามีของนายหรือเปล่า"
.
.
.
"อิโตชิ ริน ยินดีที่จะรับ อิซางิ โยอิจิ เป็นสามี"
มันค่อนข้างกะทันหันสำหรับอะไรแบบนี้ ใบหูคนเอ่ยขอขึ้นริ้วแดงและเบนสายตาหนี ในขณะที่คนถูกขอกำลังประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นในหัว
"ทำไมถึง...."
"ก็แค่อยากทำ แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปหมดแล้วเลยทำได้แค่นี้ พิธีที่มีแค่พวกเรา ไม่มีสักขีพยาน ไม่มีครอบครัวมาร่วมอวยพร ไม่มีแขกมาแสดงความยินดี"
สองมือหนาประคองถ้วยชาไว้ในมือพลางก้มมองเงาสะท้อนของตนที่ปรากฏบนนั้น
"รินเอาถ้วยชามาทำไมเหรอ" โยอิจิทักยามเห็นแฟนหนุ่มของตนถือถาดที่บนนั้นมีถ้วยชาวางอยู่สองใบ
"อิซางิ โยอิจิ" การเรียกด้วยชื่อและนามสกุลเต็มยศเช่นนี้ทำเอาเจ้าของชื่อรู้สึกไม่ดี กลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ก่อนจะขานรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"แต่งงานกับฉันนะ"
"เอ๊ะ"
หากจุดสิ้นสุดของทศนิยมค่า π ไม่สามารถหาได้ฉันใด ความรักที่เขามีต่ออิซางิ โยอิจิก็ไม่สามารถบรรยายได้ฉันนั้น
ท่ามกลางโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงพร้อมกับความสิ้นหวัง ขอแค่มีเธออยู่ข้างกายก็เกินพอ
ด้วยเหตุนี้เอง ในวันถัดมาจึงได้ตัดสินใจทำเช่นนั้น
การทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันนั้นนับว่าเป็นการสร้างภาระให้แก่ร่างกายอย่างหนัก เพราะฉะนั้นยามภารกิจเสร็จสิ้น ไกด์ต้นอ่อนก็จะเดินไปกอดเซนติเนลของตนก่อนจะหลับไป
นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้ายามหลับของคนรักอย่างไม่รู้จักเบื่อ ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมที่หล่นลงมาปรกหน้าไปทัดหู เคลื่อนมาเกลี่ยแก้มใสอิ่มฟูอย่างรักใคร่ และรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบอกพร้อมซุกหน้าลงบนต้นอ่อนกลางกระหม่อม
แต่นั่นก็ไม่ได้น่าแปลกใจเสียเท่าไร เพราะเจ้าต้นอ่อนเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับพ่อดาร์ก เซนติเนลตลอดทั้งวันแม้ว่าจะโดนผู้อำนวยการไล่ให้ไปฝึกกับไกด์ด้วยกันเองก็ตาม
ดวงตากลมโตคู่นั้นเอาแต่จ้องมองไม่วางตา สังเกต จดจำ ลอกเลียนแบบ ปรับใช้ และนำมาปฏิบัติ กลายเป็นรูปแบบการต่อสู้ ณ แนวหน้า โดยเน้นการสนับสนุนรินเพื่อเปิดช่องว่างให้อีกฝ่ายโจมตีได้ง่ายขึ้นและคอยไกด์เป็นระยะ
วันเวลาผ่านไปร่วมอาทิตย์ อิซางิ โยอิจิได้พัฒนาฝีมือไปจนสามารถลงสนามรบของจริงได้อย่างชำนาญราวกับมืออาชีพ
ทั้งสไตล์การต่อสู้ระยะประชิดทั้ง ๆ ที่ทักษะนี้จะเป็นเซนติเนลเท่านั้นที่มีความถนัด หรือจะทักษะการวิเคราะห์ภาพรวมของสนามรบและวางแผนออกมาราวกับหยั่งรู้อนาคต
เซนติเนลหนุ่มพาไกด์มือใหม่มาคูลดาวน์หลังการฝึกด้วยการเล่นโยคะ เดิมทีโยอิจิไม่ชอบมัน และตอนนี้ก็ยังไม่ชอบอยู่ แต่มันไม่ได้ทรมานเท่ากับครั้งแรกที่ถูกรินกับซาเอะจับดัดตัว แล้วตื่นมาในตอนเช้าพร้อมความปวดระบม
พวกเราไปอาบน้ำชำระร่างกายหลังจากฝึกมาตลอดวัน มื้อเย็นร่วมโต๊ะเดียวกัน และกลับมายังห้องพักส่วนตัวพร้อมพูดคุยผลการฝึกของวันให้อีกฝ่ายรู้ แม้ว่ารินจะเป็นฝ่ายฟัง และโยอิจิเป็นฝ่ายพูดก็ตาม
นัยน์ตาคมตวัดมองทุกชีวิตในห้องนี้ราวกับต้องการหั่นร่างออกเป็นส่วน ๆ หรือไม่ก็บดด้วยพลังจิตให้แหลกไม่เหลือความเป็นมนุษย์ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปพร้อมกับคนในอ้อมแขน
แววตาเปลี่ยนไปราวกับคนละคนยามมองคนรัก สันจมูกโด่งกดแนบลงไปกับกลุ่มผมสีดำเหลือบน้ำเงินเมื่อรู้สึกถึงแรงของเขี้ยวแมวที่กำลังขบกัดลงบริเวณต้นคอ
แมวเด็กคันฟัน
"ริน!"
เหมือนเห็นแสงสว่างเมื่อร่างสูงที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ผลักทุกอย่างที่เกาะแกะตัวเองอยู่ออกโดยไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด ก่อนจะรีบวิ่งไปกระโดดกอดเซนติเนลคนเก่งเสียเต็มรัก
สองขาเรียวตวัดรัดเอวสอบและสองแขนที่โอบรอบคอ เช่นเดียวกันกับแขนแกร่งข้างหนึ่งที่สอดรองให้ทิ้งตัวลงนั่ง ในขณะที่อีกข้างก็ประคองแผ่นหลังเล็ก ๆ นั่นไว้ไม่ให้ตก
ใจจริงรินอยากฝึกโยอิจิด้วยตัวเอง แต่เพราะตนนั้นเป็นเซนติเนล ความรู้ความสามารถที่มีเสียส่วนใหญ่ไม่สามารถนำไปสอนให้กับไกด์คนโปรดได้ ดังนั้นแล้วจึงจำเป็นต้องให้อีกคนไปเรียนรู้กับไกด์ด้วยกันเอง
แต่โยอิจิสเน่ห์แรงกว่าที่คิด ทันทีที่ฝึกตามตารางของตนเองเรียบร้อยก็รีบมายังฝั่งห้องฝึกสำหรับไกด์ ปรากฏเป็นภาพของแฟนตัวเล็กกำลังโดนคนนู้นกอดคอ คนนี้ขอนอนตัก แม้จะพยายามดันออกแต่ก็ไม่เป็นผล