หนึ่งสัปดาห์—เดดไลน์ของทีม รวมถึง 'ชีวิต' ของเขา
"เรื่องนี้ทางเราจะพยายามไม่ให้สำนักข่าวเผยแพร่ออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงเคสลอกเลียนแบบ"
@kmi-sohara.bsky.social
Aoshi Sohara | 34 Y | นักสืบเอกชน / (🔒) | ที่ตั้งสำนักงานตรงข้ามกับสถานีตำรวจในตัวเมืองคูเมอิ | CO-OP | #KMI_Commu : ถ้าหากคุณมีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือสุ่มเสี่ยง ยินดีด้วย คุณถูกเขาจับตามองแล้วล่ะ... 📇Doc : [ https://citly.me/tnZMS ]
หนึ่งสัปดาห์—เดดไลน์ของทีม รวมถึง 'ชีวิต' ของเขา
"เรื่องนี้ทางเราจะพยายามไม่ให้สำนักข่าวเผยแพร่ออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงเคสลอกเลียนแบบ"
แต่เวลามีไม่พอสำหรับเขาในสถานที่แห่งนี้และช่วงเวลาที่เขาเหลือคงต้องใช้พูดคุยกับชายตัวท่วมใหญ่
นักสืบผละสายตาออกจำใจก้าวเดินลงไปยังชั้นล่าง รอกระทั่งทุกคนรวมตัวกันยังบริเวณโถงทางเดิน บทสรุปของภาระกิจของวันนี้โซฮาระกลายเป็นคนกล่าวเอง
"ถ้ามีความคืบหน้าเรื่องคนร้ายหรือเราสามารถจับกุมคนๆ นั้นได้ คุณได้รับแจ้งในรูปแบบของจดหมาย จะมีคนนำมาส่งให้คุณภายในหนึ่งสัปดาห์"
+
ใบหน้าไว้เคราสีดอกเลาพยักให้ความเห็นไปทิศทางเดียวกับเจ้าบ้าน "ไม่รบกวนมากไปกว่านี้แล้วล่ะ"
หัวหน้าทีมก้าวเดินลงยังชั้นล่างก่อนใครอื่น เว้นระยะเวลาเล็กน้อยจนนักสืบขยับร่าง ก่อนไปเขาสอดส่ายสายตากวาดสำรวจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกลับมาบรรจบอยู่บนใบหน้าโนกามิ
ไร้คำพูด ทว่าดวงตาเต็มไปด้วยคำถามที่ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันซึ่งก็คงไม่พอให้ความกระจ่าง
+
"แต่ถ้าเป็นคุณหลังโผล่ออกมาจากมุมมืดของสวนสาธารณะพร้อมเสียงเจื้อยแจ้ว ก็อดไม่ให้คิดถึงได้ซะทีไหนเล่า"
น้ำเสียงกล่าวหยอกแต่ความหมายตรงตามตัว คุณลักษณะแบบนั้นของอีกฝ่ายน่าจดจำไม่น้อย
"ว่าแต่ ผู้กำกับคนนั้นทำหนังรีเมคแบบไหนเหรอ?"
คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงจนสามาาถลอยออกจากใบหน้า มุมปากสองข้างเผล่คว่ำเล็กๆหลังสิ้นคำเย้าจากชายที่อายุมากกว่าตนแค่ปีเดียว
"อาจจะ—" ไหล่กว้างยักขึ้นบน "ถ้าตอนที่คุณใช้เครื่องกรอฟันแล้วซ่อนใบหน้าครึ่งซีกไว้ใต้แมส ผมก็คงหาหมอคนอื่นมาแทนได้"
มือทั้งสองข้างรอบนี้ไพล่ไว้ด้านหลัง ดวงตาเฝ้ามองมองดูคนทำท่าทีเริงร่าละม้ายเด็กตัวเล็ก ใบหน้าก็เปลี่ยนจากบึ้งก่อนผ่อนยิ้มออกมาที่มุมปาก
+
"?" ไม่มีคำทวนซ้ำ ถ้าให้ถามเหตุผลไปตามตรงก็คงจะเป็นเรื่องที่พอจะเดาได้อยู่แล้ว เขาไม่ต้องการไปกรีดรอยแผลให้กว้างขึ้น บทสนทนาว่างเว้นไว้เล็กน้อย
"แล้ว..คุณจะทำอะไรต่อถ้าหากว่าปิดคลินิกไปแล้ว?"
มุมปากใต้เครายกขึ้นเล็กๆ ถ้าพูดเรื่องนี้ต่อ ชายข้างกายคงได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทางในทริปเที่ยวโลกหน้าจริงๆเห็นจะได้แล้วล่ะ "นั้นสินะ..." เขาลากเสียงเอื่อยอย่างหมดแรงแต่ก็ผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
แค่คิดเพลินว่าจะตุนของหวานมากมายไว้ในร่างกายได้อย่างไรพร้อมมองไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายชี้ไป อยู่ใกล้กับคลินิกของฮาซามะ ยูริ ก็เลือนลางคล้ายว่าจะจำได้หน่อยๆ แต่ภาพในหัวก็สะดุดลง
+
โจหันหน้าเข้าหานักสืบด้วยน้ำเสียงขรึม ภาพทั้งสองคนดูราวกับผู้เป็นพ่อกำลังเอ็ดลูกชายที่สร้างก่อเรื่องเอาไว้ เป็นเวลาเดียวกับผู้ช่วยทั้งสองกลับมารายงานการตรวจค้น
"การตรวจค้นชั้นสองเสร็จสิ้นแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือของคุณนะครับ"
"ส่วนเรื่องว่าจะมีตำรวจที่ไหนมาเคาะหน้าบ้านของคุณอีก เราคงรับประกันไม่ได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้น"
แต่ถ้านี่เป็นปฏิบัติการณ์ที่ค่อนข้างเป็นความลับ ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องที่อยู่ในรายงานจะถูกส่งต่อให้ตำรวจในญี่ปุ่นโดยง่าย ผู้เป็นหัวหน้าทีมพลิกข้อมือดูนาฬิกาครู่เดียวก่อนจะผละขึ้นมา
"ส่วนนาย...เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะทีเดียว"
+
ความเงียบเกิดขึ้นกับโซฮาระอีกครั้งขณะเดียวกันโจ แม็กเนอร์ยืนกอดอกแทนการจดตัวอักษรลงหน้ากระดาษ นิ้วป้อมกลมลูบผ่านเคราสีดอกเลากับสีหน้าพินิจพิเคราะห์ คิ้วสีเดียวกันหม่นเข้าหาพร้อมกับทอดถอนใจออกมา
"นี่คงเป็นข้อมูลส่วนที่ขาดหายไป น่าจะตอบคำถามได้ว่าทำไมเราถึงมาหาคุณเป็นคนแรก ถึงยังไงก็คงต้องเขียนเพิ่มลงในรายงาน"
+
"หลังจากนี้เหรอ.." หมวกหนังสีดำสวมทับกลับคืนที่เดิมตามมาด้วยความคิดวิ่งฉิวผ่านสมองเข้ามา
"กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" กล่าวด้วยเสียงจริงจังจนดูตลกเล็กๆ
"พาร์เฟ่ต์ซักถ้วย—หรือไม่ก็เลมอนเมอแรงก์ทาร์ต?"
เขาตาโตครู่หนึ่งอย่างกับเพิ่งได้ยินประสบการณ์ตรงจากอีกฝ่าย เสียง 'หืม~' ลากผ่านลำคอให้มือลูบเคราใต้คางอย่างคนนึกตาม
"แบบนั้นก็น่าสนใจดี—ขุนตัวเองให้กลมปุ๊กไม่ก็ทำจนตัวเองซูบเซียว แล้วก็ปล่อยให้ธรรมชาติทำงาน"
ภาพกล้ามเนื้อบนร่างกายที่เปลี่ยนไปจากนั้นก็นอนอย่างนิ่งเงียบบนเตียงนอนฉายชัดในหัว ขณะก้าวเดินผ่านเครือญาติของคนข้างกายและไม่ลืมจะหยุดโค้งศรีษะให้เพื่อเป็นการอำลา
+
"ในตอนนี้ผมไม่ติดใจอะไรเรื่องการใช้ยานอนหลับของคุณ เพราะงั้นจะขอถามข้อถัดไปเลยก็แล้วกัน"
หรือก็คือต่อให้นักสืบจี้ถามเรื่องนี้ต่ออีกฝ่ายก็คงไม่ยอมปริปากง่ายๆ
"เหมือนคุณจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนภายในเมือง แต่คิดว่าตัวเองเคยมีคู่อริหรือมีใครที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อตัวคุณได้หรือเปล่า?"
"ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว" โซฮาระกล่าว น้ำเสียงอยู่กึ่งกลางระหว่างแข็งกระด้างกับความใจเย็น
"เรื่องนี้ค่อนข้างเร่งด่วน—เพราะอย่างนั้นการรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณในฐานะหนึ่งในผู้ต้องสงสัยในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดจึงค่อนข้างสำคัญ"
หากเจ้าบ้านสามารถรับรู้บรรยากาศที่อบอวนรอบตัวของนักสืบได้ คงจะรู้ว่าเขานั่นมีความกดดันที่มากกว่าคนในทีมคนอื่นๆ อยู่มากโข
+
เสียงหัวเราะแผ่วๆ พร้อมกับลูบแผลเป็นเหนืออกด้านซ้ายใต้เชิ้ตขาว
"สงสัยวันหลังผมคงต้องลองดื่มยาพิษดูแล้วล่ะ—"
ยังคงเป็นชายที่ชอบท้าทายเส้นแบ่งชีวิตอยู่เหมือนอย่างเคย ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวพูดอำเล่นหรือตั้งใจจะทำมันจริงๆ
ทางออกอยู่ข้างหน้า กลิ่นดอกไม้สดเคล้าควันธูปเริ่มจางลงทีละน้อย
"หลังจากนี้คุณจะทำอะไรต่อ?"
เปลือกไม้และฟ้าจางสบมองเข้ากับเจ้าของนัยน์ตาสีมืดมิดฟังถ้อยคำตรงหน้าจนจบแล้วแนบรอยยิ้มข้างมุมปากคู่เสียงขบขันขึ้นจมูกสั้นๆ
"นั่นแหละปัญหา.."
สีหน้าผ่อนลงจากความโศกในอดีต มือหนาหยิบหมวกหนังปีกดำคู่ใจกลับมาถือครองไว้ราวกับรับมาพร้อมคำไว้อาลัยจากเพื่อนร่วมทาง
"..พยายามทำแบบนั้นหลายรอบแล้ว แต่ก็ไปหาเธอไม่ได้ซักที"
"แม้แต่ในฝันก็ยังเป็นคนอื่น.."
+
นักสืบเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเคร่งขรึม ถ้าหากจะวัดความแตกต่างการตั้งคำถามระหว่างหัวหน้าทีมที่สอบถามในขอบเขตงาน ผิดกับตัวเขามักชอบตั้งคำถามไปยังเนื้อหาที่ค่อนข้างส่วนตัวเสียมากกว่า
แต่ทุกอย่างล้วนคือข้อมูลที่จะไปแนบอยู่บนเอกสารของหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเพื่อวิเคราะห์รูปคดีในอนาคต
คนร่างท้วมจดยุกยิกลงบนหน้ากระดาษ พอเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับตัวของคนที่เพิ่งโผล่กลับออกมาจากห้องนอนของเจ้าบ้านก่อนพยักหน้าให้น้อยๆ คิดว่าตัวของนักสืบคนมีอะไรอยากจะถามเจ้าบ้านเพิ่มเช่นกัน
"ก่อนหน้านี้คุณบอกว่ามีการใช้ยานอนหลับที่ได้รับจากจิตแพทย์ชื่อเซเรน เคยได้รับผลข้างเคียงหรืออาการดื้อยาบ้างหรือเปล่า?"
+
หัวข้อแรกผ่านไปเป็นเวลาเดียวกันกับโซฮาระกลับมาสมทบ มือของเขานั้นว่างเปล่าเช่นเดียวกับคำตอบของหัวข้อการสอบถามที่ดูไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
"งานเอกสารในโรงเรียนกินระยะเวลาจนคุณต้องอยู่ล่วงเวลาอย่างนั้นสินะ เป็นบุคลากรภาควิชาศิลปะผนวกกับการมีคอนเนคชั่นกับระดับผู้บริหาร นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมอีกระดับหนึ่ง"
+
เจ้าหน้าที่แม็กเนอร์ลากเสียงในลำคอขณะใช้มีจับปากกาจดรายละเอียดลงสมุด
“ตามข้อมูลที่ผมได้รับจากนักสืบอะโอชิ คุณมีการจัดบรรยาให้กับผู้ที่สนใจในห้วข้อที่เกี่ยวข้องกันระหว่างศิลปะและอาชญากรรม เป็นการจัดบรรยายที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับคนที่งานสายอาชีพอย่างพวกเรา"
โจกล่าวเสริม ไม่แปลกใจเลยถ้าหากตัวของนักสืบจะตาลุกวาวแล้วรุดหน้าไปยังทิศทางนั้นมากกว่าสมัยที่อยู่กับเขา—
+
เขาหยิบสมุดจดขนาดเล็กในกระเป๋าแจ๊คเก็ตออกมาพร้อมปากกา ขณะเดียวกับที่โซฮาระย้อนกลับเข้าไปยังห้องนอนของโนกามิ
“—ตามข้อมูลที่ผมรู้ปัจจุบันคุณเป็นครูนี่นะ ปกติแล้วในหนึ่งวันคุณทำอะไรบ้างนอกจากหน้าที่ภายในรั้วโรงเรียน?"
"—เช่นเดียวกับกรณีของคุณที่มีใบอนุญาตแขวนอยู่ในห้องทำงานชั้นล่างก็เป็นเครื่องยืนยันได้ในระดับนึงแล้วล่ะ"
คนร่างท้วมยื่นสิ่งของในมือตนเองให้กับผู้ช่วยคนหนึ่ง คล้ายว่าให้เอาไปคืนไว้อย่างเดิมพร้อมสูดลมหายใจเข้า
“ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อย เพราะงั้นผมจะขอถามไม่กี่ข้อ”
+
“นั่นฟังดูน่าตกใจทีเดียว...” เจ้าหน้าที่แม็กเนอร์—หัวหน้าทีม—ช้อนหางตามายังทางนักสืบอะโอชิ อีกฝ่ายไม่ได้ดูมีท่าทีปิดซ่อนเอาไว้..เพียงแค่ดวงตาคู่สองสีไม่ยอมสบกลับคืนไป
สิ่งนี้บ่งบอกได้อย่างดีว่ารายละเอียดการรักษาในวันนั้นไม่เคยแพร่งพรายหรือถูกรายงานมาถึงยังตัวเขาเลย
"..แน่นอน การที่เราสามารถเก็บปืนพกไว้ในบ้านได้ย่อมต้องมีใบขออนุญาต นั่นมีไว้เพื่อการป้องกันตัวและอาชีพการงาน"
+
แต่รอบนี้เปลี่ยนเป็นหัวหน้าทีมของเขาแทน
"ทำไมของสองสิ่งนี้ถึงมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าล่ะ?" แทนที่จะเป็นคำพูดของผู้พบเจอ แต่กลับเป็นคำพูดของนักสืบเสียเอง
ทำไมไม่ใช่ในตู้เก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ในห้องรับแขก—ความคิดส่วนท้ายโซฮาระยังไม่ได้กล่าวออกไป
บทสนทนากำลังจะดำเนินไปถึงสมุดที่เขาเจอ แต่โจ แม็กเนอร์ก็ขัดขึ้นโดยการโผล่พ้นออกมาจากห้องแต่งตัว ในมือชายเคราสีดอกเลาถือสิ่งที่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ไม่ก็เคสฉุกเฉินจะพบเจอได้ในห้องผ่าตัด
"ตอนผมตรวจค้นตู้เสื้อผ้าของคุณก็เจอกับเสื้อคลุมโพลีโพรพิลีนที่ให้แพทย์ใช้ ดูจะเป็นเกรดที่ใช้ในการผ่าตัดกับถุงมือยาง"
เหมือนภาพวนซ้ำจากก่อนหน้าที่เป็นโซฮานจะหยิบจับของทั้งสองสิ่งยื่นให้เจ้าบ้านดู
+
"เข้าพบจิตแพทย์ทุกสามเดือนและใช้ยานอนหลับควบคู่ไปด้วยสินะ" ตัวยาในมือข้างขวาแกว่งเบาๆ ก่อนลดมือลง สายตาเฉียงออกไปยังการตรวจค้นที่ยังคงดำเนิสต่อไปภายในระยะเวลาที่เหลืออยู่
"ไม่ง่ายเลยนะ อาชีพแพทย์ในโรงพยาบาลน่ะ"
เขาไม่คิดว่าตนเองจะเข้าใจมันทั้งหมด—สิ่งที่โนกามิพูด—สังคมการทำงานในประเทศนี้ที่ตัวเขารู้สึก ก็คงเต็มไปด้วยความเย็นชา
+
"ของผมคงแตกต่างจากคุณนิดหน่อย ผมรู้ตัวว่าเธอจากไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าเธอมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่งบนโลก"
"—อยู่ในสถานแสนไกลที่ผมไม่สามารถไปหาได้...."
พอเรื่องนี้วนกลับมา ทุกอย่างก็จุกอยู่ในอก
"เธอชื่อ โคยูกิ เธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้หลังจากเราแต่งงานกันได้แค่ปีเดียวเท่านั้น..."
ไม่ใช่ความลับอะไร แค่ไม่บ่อยนักที่เขาจะพูดเรื่องราวของตัวเองกับใครซักคน ลมหายใจกวาดเอามวลอารมณ์ร่วมไปกับงานอวมงคลเปลี่ยนให้สงบลง
+
"หน้าผมดูเหมือนคนที่พร้อมจะเดินไปขอใส่กุญแจมือให้คนอื่นขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย~"
เจ้าตัวยืนจมูกปากเผยอคว่ำลงใต้หนวดด้วยเสียงลากคล้ายยียวนหน่อยๆ ขณะหันหน้าเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ
เสียงผ่อนหายใจลอดผ่านถ้อยคำกับคำถามจากลูกชายของทาเนดะ ดาเลีย นั่นเพียงพอให้นักสืบหวนกล่าวถึงเรื่องในอดีต..
"เคยสิ.." กระบังลมผ่อนออกน้อยๆ
"—ครั้งแรก..ภรรยาของผมเอง"
+
"—และสมุดบันทึกเล่มนี้ดูจะเก็บเรื่องราวของผู้คนเอาไว้เยอะเลยทีเดียว"
ดวงตาคู่สองสีหรี่ลงเล็กน้อย ถือสมุดนั้นด้วยมือด้านซ้าย
"เป็นของคุณหรือเปล่า?"
แต่อย่างที่เคยบอกไป ถ้าหากเป็นบันทึกส่วนตัวเขาจะไม่ขอสอดส่องอ่านข้อความในนั้นไปมากกว่านี้
"เริ่มจากอันไหนก่อนก็ได้ครับ"