❝ NOM NOM NOM ~ ❞
°.✩┈┈∘*┈˃̶୨୧˂̶┈*∘┈┈✩.°
『 𝙆𝙖𝙣𝙧𝙤𝙟𝙞 𝙈𝙞𝙩𝙨𝙪𝙧𝙞 ও 𝘋𝘦𝘮𝘰𝘯 𝘚𝘭𝘢𝘺𝘦𝘳 』
#KanrojiMitsuri #Mitsuri #MitsuriCosplay #KimetsuNoYaiba #DemonSlayer #Cosplayer #CosplayerTH
@numnaao.bsky.social
20 forever | ISFP | I'm just artist who can cosplay a little bit 🫶
❝ NOM NOM NOM ~ ❞
°.✩┈┈∘*┈˃̶୨୧˂̶┈*∘┈┈✩.°
『 𝙆𝙖𝙣𝙧𝙤𝙟𝙞 𝙈𝙞𝙩𝙨𝙪𝙧𝙞 ও 𝘋𝘦𝘮𝘰𝘯 𝘚𝘭𝘢𝘺𝘦𝘳 』
#KanrojiMitsuri #Mitsuri #MitsuriCosplay #KimetsuNoYaiba #DemonSlayer #Cosplayer #CosplayerTH
แล้วเกียวเมก็ร้องไห้ออกมา ส่วนเคียวจูโร่ที่มายืนอยู่ข้างกัน เจ้าตัวก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อีกฝ่ายไป
"ถ้าทันจิโร่ยังอยู่ ยังไงฉันก็ต้องพากลับมาให้ได้!" เคียวจูโร่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกได้ถึงความแน่วแน่ มือทั้ง 2 ข้างก็กำเข้าหากันแน่น แต่เคียวจูโร่ก็ไม่คิดที่จะผ่อนแรงเลย (175)
"อย่าทำแบบนี้อีกทันจิโร่ ถ้าเจ้าตายไป ตัวข้าก็จะไม่ปล่อยให้มนุษย์หน้าไหนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่
ข้าเข้าใจว่าเจ้ารู้สึกโกรธแค้นข้าแค่ไหน ถ้าอยากระบาย ก็ให้ฟันมาที่ตัวข้า ไม่ใช่ตัวเจ้าแบบเมื่อกี้นี้
อีก 2-3 วันข้าจะไปรับเนซึโกะมา ถ้าเจ้าไม่ทำร้ายตัวเอง ข้าก็จะไม่ทำร้ายใคร" (165)
เป็นเสียงของชิโนบุที่ดังขึ้นมาจากหน้าประตูพร้อมกับรอยยิ้มเย็น ๆ ที่ทำให้ซาเนมิรู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลก ๆ
"ถ้าแค้นมันมาก พวกคุณก็ช่วยให้ความร่วมมือกับฉันด้วยนะคะ เพราะตอนนี้เนซึโกะยังไม่ถูกพวกมันมาเอาตัวไป
แล้วนายเหนือหัวเองก็ยังรู้สึกได้ว่า ทันจิโร่ยังมีชีวิตอยู่" (142)
ว่าอีกฝ่ายจะสนใจมนุษย์คนนี้ หรือสิ่งที่โคคุชิโบจงใจทำพลาดไปมากกว่ากัน
แต่โคคุชิโบก็ไม่ได้คิดที่จะก่อกบฏอะไรขึ้นมา เจ้าตัวก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าสิ่งที่นายท่านของตัวเองต้องการในตอนนี้มันคืออะไร เพื่อที่โคคุชิโบจะได้วางตัวถูกนั่นเอง (132)
พร้อมกับออกแรงจับแขนของคนเด็กกว่าที่อยู่ในมือให้แน่นขึ้น
'คราวนี้เราจะต้องเป็นฝ่ายปกป้องบ้างให้ได้ ฉันไม่มีทางปล่อยทันจิโร่กับเนซึโกะไปให้พวกแกแน่' กิยูคิดขึ้นมาอยู่ภายในใจ ก่อนที่จะหันไปพูดกับคนเด็กกว่าว่า
"อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ มากับฉันก่อน ตอนนี้นายกับเนซึโกะไม่ปลอดภัยแล้ว" (117)
ตัวมุซันที่ได้เป็นอสูรเต็มตัว เจ้าตัวก็ได้หลงลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองไปที่นั่นทำไมกัน
"ใช่สิ ที่ข้ายอมเป็นอสูรเต็มตัว ก็เพราะว่าข้าอยากเจอพวกเจ้าที่มาเกิดใหม่อีกครั้ง..." ในที่สุดมุซันก็จำได้แล้วว่าตัวเองมาเป็นอสูรเพราะอะไร
.
.
.
.
.
.
.
"...ตอนนี้เนซึโกะก็ได้พิสูจน์ให้พวกเธอได้เห็นแล้วว่า เธอเป็นอสูรที่ไม่ทำร้ายมนุษย์จริง ๆ" (79)
แต่ทว่าในเย็นวันหนึ่งหมอที่ทำการรักษามุซัน ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพูดมุซันว่า
'แย่แล้วขอรับ! เด็กสองคนนั้นกำลังถูกแขวนคอ! เพราะ---
'อะไรนะ!!! ไม่ต้องมาพูดพร่ำให้มากความ!!! เจ้ารีบพาข้าไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย!!!' ว่าแล้วมุซันก็หันไปหยิบผ้าคลุมผืนใหญ่ที่เด็กทั้ง 2 คนนั้นช่วยกันเย็บมาคลุมตัวจนมิด ก่อนที่จะรีบวิ่งตามหมอฟุยุจิออกไป (64)
『 𝙆𝙖𝙜𝙖𝙢𝙞𝙣𝙚 ⭒ 𝙍𝙞𝙣 』𝘧𝘢𝘯𝘢𝘳𝘵 𝘷𝘦𝘳.
¸ . ★ ° :. . • ° . * :. ☆
อยากเห็นรินจังใส่ชุดฟูๆ + อยากฟาร์มชุดคอสที่ดีไซน์เอง ก็จัดเลอ และใช่ ลายเส้นเปลี่ยนอีกแล้ว...
#Vocaloid #KagamineRin #Kagamine
สควอโล่จึงหันมาจัดการอาหารในส่วนของตัวเองต่อ
หลังจากที่มื้ออาหารเช้าที่สุดแสนจะอึดอัดนี้ได้จบไป ซันซัสก็หันไปพูดกับเคียวโกะ ฮารุ และโคลมว่า
"วันนี้ฉันจะให้พวกเธอออกไปซื้อของได้ อยากได้อะไรก็ซื้อมา ไม่ต้องเกรงใจ แล้วก็ซื้อขนมมาให้พวกเด็ก ๆ ด้วย
เดี๋ยวฉันจะให้ลุซซูเรียกับสควอโล่ไปช่วยถือของ" (227)
จนสึนะสามารถสัมผัสได้ว่าลึก ๆ แล้วโกคุเดระก็ยังคงมีความรู้สึกผิดอยู่ดี
พอพากันเข้ามาในฐานทัพเรียบร้อยแล้ว สึนะก็เห็นว่าโกคุเดระถอดกำไลอะไรบางอย่างทิ้งลงไปในกล่องหน้าประตู
จากนั้นโกคุเดระก็พาสึนะไปหาอะไรกินรองท้องที่ห้องครัวก่อนเป็นอันดับแรก (215)
รุ่นที่ 9 ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมากว่า
"ฉันเคยบอกพวกเธอแล้วว่าตอนนี้ซันซัสไม่มีพิษมีภัยอะไรอีกต่อไปแล้ว แต่พวกเธอก็ไม่ยอมเชื่อฉันสักที
แล้วเมื่อกี้นี้ก็คงเป็นหลักฐานชั้นดีได้แล้วใช่ไหมว่า ซันซัสสามารถเป็นหัวหน้าวาเรียต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องได้รับการคุมขังอย่างเข้มงวด" (185)
มันก็แสดงออกได้ถึงความอ่อนโยนแบบมาก ๆ เลย
รุ่นที่ 9 กับพวกผู้พิทักษ์ที่พอได้เห็นความสามารถของสึนะแบบนี้แล้ว พวกเขาทุกคนจึงยิ่งรู้สึกว่า
ไม่มีคนอื่นที่แล้วที่จะเหมาะสมเป็นบอสของวองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้เท่ากับสึนะ (173)
สีหน้าของไคเซอร์ดูเศร้าหมองไปชั่วครู่ แต่อิซางิก็ยังสังเกตุได้อยู่ดี
"ไอ้ประโยคนั้นน่ะ ฉันได้ยินจากคนอื่นมาเยอะแล้วโยอิจิ
แต่คนที่พูดออกมาแบบจริงใจโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรจากฉันเลย
ก็มีแต่นายเท่านั้นแหละ แค่คนเดียวเลยโยอิจิ" (36)
แต่แล้วเลวี่ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามากลางวง พร้อมกับเดินเอาจดหมายในมือไปให้สควอโล่ด้วย
สควอโล่รับมาเปิดอ่านอยู่สักพัก เจ้าตัวก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เพราะซันซัสยังไม่กลับอิตาลี รุ่นที่ 9 ก็เลยจะมาตามให้ซันซัสกลับไปด้วยกันกับตัวเองแล้ว (136)
ส่วนทิมอเทโอเองก็เหมือนเห็นแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์ เพราะถ้าหากว่าซันซัสไม่ก่อศึกจากภายในขึ้นมาอีก วองโกเล่และข้างเคียงก็จะได้พบกับความสงบสุขแล้วเสียที
"นี่ ไปถามอิเอมิสึให้ที ว่าฉันขอพาสึนะโยชิคุงมาอยู่ที่อิตาลีเลยได้ไหม?" (125)
ไคเซอร์กลับหัวเราะขึ้นมาอย่างถูกอกถูกใจไปเสียได้
"นายนี่พยศเก่งจริง ๆ ด้วย ฉันชักจะถูกใจแล้วสิ" ว่าแล้วไคเซอร์ก็หันมาจับมือข้างซ้ายของอิซางิขึ้นมาประทับจูบลงไปที่หลังมือ
อิซางิจึงดึงชักกลับมาทันที พร้อมกับเอาชายเสื้อมาเช็ดใหญ่อย่างรังเกียจ
"รังเกียจฉันไปเถอะโยอิจิ ฉันจะทำให้นายเข้ามาอยู่กับฉันให้ได้เลย" (25)
"ไม่!!! ถ้าไม่ใช่แก ฉันไม่ยอมนะโยชิ แล้วอีกอย่างมันจะมีใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งบอสวองโกเล่รุ่นที่ 10 ได้เท่ากับแกอีก"
เพียงเท่านี้สึนะก็รู้แล้วว่า ต่อให้ตัวเองจะเอาแหวนวองโกเล่ทั้งหมดนี้ไปคืนให้รุ่นที่ 9 จริง ๆ แต่สุดท้ายแล้วซันซัสก็ต้องเอาพวกมันมาคืนให้สึนะอยู่ดี
'นี่ฉันควรจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดีวะเนี่ย!' (102)
เพราะถ้าไม่ได้โยชิในวันนั้น ซันซัสก็คงจะฆ่าตัวตายไปแล้วจริง ๆ
และถึงแม้ว่าซันซัสจะโหดร้ายใส่คนอื่นไปมากมายขนาดไหน แต่ซันซัสก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า
ตัวเองจะไม่มีทางทำร้ายโยชิและครอบครัวคนสำคัญของโยชิเป็นอันขาด... (67)
"บ๊ายบายซันซัน"
ซันซัสที่เห็นว่าคนเด็กกว่าโบกมือลามาให้ เจ้าตัวจึงถอนหายใจออกมาอย่างติดรำคาญ แต่ก็ยังยกมือขึ้นมาโบกตอบกลับไปอยู่ดี
"หึ ยิ้มเก่งเหมือนแม่แกนี่เอง แต่ก็ดีแล้วล่ะที่แกมีแม่ที่ดีแบบนี้โยชิ" ซันซัสพูดบ่นกับตัวเองขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับมองไล่หลัง 2 แม่ลูกไปจนสุดสายตา (57)
ยังไงพวกมันก็ต้องกลับมาสร้างความวุ่นวายอีกแน่นอน
มีใครจะค้านอะไรไหมครับ เพราะถ้าไม่มี ผมก็จะได้วางแผนล่อหนูมาติดกับดักต่อเลย"
ในตอนนั้นคาเลโก้กับอาจารย์คนอื่น ๆ ที่รักตัวกลัวตายกันอย่างถึงขีดสุด พวกเขาแต่ละคนจึงไม่กล้าขัดใจโอเปร่าที่กำลังโมโหเลือดขึ้นหน้าขนาดนั้นได้จริง ๆ (186)
ทางด้านคาเลโก้เองที่หมดเวลาอัญเชิญแล้ว เจ้าตัวจึงกลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้ง
"รุ่นพี่! ไอ้เด็กนั่นกำลังมา รุ่นพี่รีบออกไปรับเร็ว!"
ถึงแม้ว่าโอเปร่าจะรู้สึกจับต้นชนปลายขึ้นมาไม่ถูก แต่เจ้าตัวก็รีบเปิดหน้าต่างแล้วตั้งท่าเตรียมรับท่านอิรุมะของตัวเองทันที (177)
คาเลโก้กับอิรุมะนั่งรออยู่อีกสักพัก บาลัมก็วิ่งมาถึงพอดี จากนั้นบาลัมก็สร้างบาเรียขึ้นมาไว้อีกชั้นต่อจากคาเลโก้ เพื่อกันไม่ให้มีปิศาจตนอื่นเข้ามาสอดแนมได้
"เลือดมันหยุดไหลแล้ว แต่ฉันลองใช้พลังเวทรักษาแผลให้ มันก็ไม่ดีขึ้นเลยชิจิโระ" คาเลโก้หันไปบอกอาการของอิรุมะคร่าว ๆ ให้บาลัมฟัง (140)
พอจัดการเก็บกวาดของร้านนี้ให้เสร็จ โอเปร่าก็เดินไปช่วยเก็บกวาดที่ร้านอื่นต่อทันที
และในขณะเดียวกันนั้น ที่คฤหาสถ์ของบาบิลแฟมิลี่ก็กำลังเกิดความวุ่นวายขึ้นมายิ่งกว่าเก่า เมื่อโอเปร่าก็มาหายตัวไปอีกคน
"นี่มันก็ 20 วันแล้วนะคาเลโก้คุงที่พวกเราติดต่อโอเปร่าคุงไม่ได้น่ะ ฮือ" (70)
🌂👿
⟢ ゚⋆◟ ゚゛
𝗧𝗶𝘁𝗹𝗲 : Identity V
𝗖𝗵𝗮𝗿𝗮𝗰𝘁𝗲𝗿 : Bloody Queen (Mary)
𝗖𝗼𝘀𝗽𝗹𝗮𝘆𝗲𝗿 : Yurei
✴︎◟☀•.♡ ゚*
และทันทีที่อิรุมะไขประตูเปิดเข้าไปในห้องของตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปกดเปิดไฟให้สว่างไปทั่วห้อง
อิรุมะก็รู้สึกตกใจขึ้นมา จนทำถุงใส่องุ่นกับแอปเปิ้ลตกลงไปที่พื้น
"อะ...โอเปร่า...ซัง"
เพราะเบื้องหน้าของอิรุมะก็คือโอเปร่าที่กำลังนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่บนเตียง (48)
"ก็คราวนี้อิรุมะคุงไม่สามารถเข้ามาขัดขวางแผนการของเราได้เลยนี่นา ผมก็ต้องมีความสุขสุด ๆ ไปเลยสิครับ
อ่า อยากจะเข้าไปจับอิรุมะคุงมากินเร็ว ๆ แล้วสิ เพราะผมอยากจะเห็นใบหน้าอันสิ้นหวังของอิรุมะคุงมากที่สุดเลย
มันจะต้องสิ้นหวังมาก ๆ แน่เลย อดใจรอไม่ไหวแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า" (70)
ท่านอิรุมะจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน"
โอเปร่าไม่กล้ารับปากออกมาว่าคาเลโก้คงไม่คิดร้ายกับอิรุมะ เพราะเรื่องที่อิรุมะเป็นมนุษย์ มันก็เป็นเรื่องใหญ่อยู่พอสมควร
'ถ้านายกล้าที่จะเข้ามาทำร้ายท่านอิรุมะ ก็ลองดูได้เลยคาเลโก้ ฉันไม่ปล่อยนายเอาไว้แน่' (57)
"ค่อยโล่งอกหน่อย..." แล้วบารัมก็ทิ้งตัวนั่งลงไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ
"ฉันอยากรู้ว่า มันไปทำอีท่าไหน นายถึงจับได้ว่ามันเป็นมนุษย์"
คาเลโก้อยากรู้ก็เพราะว่าตัวเองจะได้ช่วยหาทางปิดช่องโหว่ทั้งหมดที่จะทำให้เกิดอันตรายกับอิรุมะขึ้นมาได้
ถึงจะไม่ชอบหน้าขนาดไหน แต่ ณ ตอนนี้คาเลโก้ก็ตัดสินใจที่จะปกป้องอิรุมะที่เป็นมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว (47)
มันก็สามารถทำให้ความรู้สึกของไกเซอร์ที่กำลังตีกันวุ่นอยู่ กลับมาสงบลงได้อีกครั้ง
ไกเซอร์ไม่ได้ตอบอะไรอิซางิกลับไปอีก แต่เจ้าตัวเลือกที่จะเข้าไปกอดตัวของอิซางิเอาไว้แทน
เนสที่ยืนเห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น เจ้าตัวก็เริ่มรู้สึกได้ว่า ความหวงยจจังของไกเซอร์มันก็ผิดปกติเกินไปอยู่ดี (226)