[แจ้งอัพเดทค่าสเตตัส]
สำหรับลูกมูที่ผ่านบททดสอบที่ 3 จะได้รับสเตตัสเพิ่มซึ่งเป็นสิทธิพิเศษในฐานะผู้เล่นเบต้า โดยจะมี 20 แต้มที่เพิ่มมาโดยอ้างอิงจากคำตอบในฟอร์มอีเวนท์ 03 และไม่สามารถแก้ไขได้
ตรวจสอบค่าสเตตัสที่ลิงก์นี้
bit.ly/43vllr4
@juniper-roc.bsky.social
Juniper Hallie (จูนิเปอร์ ฮัลลี่) | 23 / 130 | Human Girl from Goliad - Lundberg | 10th gen of Aegis Project | อาวุธ : หอก role-playing acc for #ROC_commu Doc : http://bit.ly/4jscjkB Pic : neka.cc/composer/14094
[แจ้งอัพเดทค่าสเตตัส]
สำหรับลูกมูที่ผ่านบททดสอบที่ 3 จะได้รับสเตตัสเพิ่มซึ่งเป็นสิทธิพิเศษในฐานะผู้เล่นเบต้า โดยจะมี 20 แต้มที่เพิ่มมาโดยอ้างอิงจากคำตอบในฟอร์มอีเวนท์ 03 และไม่สามารถแก้ไขได้
ตรวจสอบค่าสเตตัสที่ลิงก์นี้
bit.ly/43vllr4
รู้อยู่แล้วว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจใยดีชีวิตพวกเธอก็เถอะ แต่มันจะมีผู้เข้าทดสอบคนไหนที่ข้ามผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปได้จริง ๆ หรอ ไหนว่าต้องการกำลังทหารไง ให้ตายสิ
"เหอะ"
ยิ่งนึกถึงความเฮงซวยของพวกมันก็ยิ่งไม่อยากยอมแพ้ไปกันใหญ่
จูนิเปอร์เริ่มออกเดินอีกครั้ง ทิ้งกะโหลกที่เจอและภาพจำแสนสั้นของเด็กผู้โชคร้ายเอาไว้ข้างหลัง
ก่อนอื่นเธอต้องหาที่หลบภัยเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง
+
และเมื่อมันบิดกายเลื้อยแทรกลงไปจนสุดความยาว ผืนทรายก็ปิดสนิทไร้ร่องรอย
ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว
เพราะตำแหน่งอยู่ไกลกันเกินไปจึงไม่อาจทำความเข้าใจได้เลยแม้เพียงเสี้ยวว่าเด็กคนนั้นพยายามตะโกนบอกอะไรกับเธอกันแน่
อาจร้องขอความช่วยเหลือ หรือบางทีเขาอาจบอกให้เธอหนีไป
"หรือบททดสอบคือให้สู้กับเจ้าตัวนั้น ...บ้าไปแล้ว แบบนั้นจะรอดไปได้ยังไง"
+
บางสิ่งปะทุขึ้นจากใต้ผืนทราย กราปรากฏตัวของร่างขนาดมหึมาทำให้พื้นทรายยุบตัวลงเป็นร่องหลุมกว้าง
มีเด็กคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่าจะกำลังวิ่งตรงมาหาเธอ แต่ไม่ทันไรก็ถูกเจ้าอสูรนั่นพ่นบางสิ่งใส่จนล้มลง
อสูรทะเลทรายกระโจนพุ่งตรงไปยังเหยื่ออย่างไม่รอช้า เงาร่างเด็กคนนั้นหายลับไปในส่วนปากของมันที่มุดลงพื้นอีกครั้ง พื้นที่รอบ ๆ แหวกออกเป็นหลุมดำมืดอีกหน ไม่ต่างจากตอนที่มุนโผล่ผุดขึ้นมา
+
ช่างเป็นสัญญาณอันยอดเยี่ยมจริง ๆ อย่าบอกนะว่าเธอต้องตามหาอะไรสักอย่างที่ซ่อนอยู่สักแห่งที่นี่อีก? โดยไม่มีคำใบ้สักนิดว่าสิ่งนั้นคืออะไร? หรือแท้จริงแล้วมันอาจเป็นบททดสอบการเอาตัวรอด? พวกทหารอาจต้องการดูว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ในทะเลทรายได้กี่วันก็เป็นได้
ยังไม่ทันที่จะครุ่นคิดหาคำตอบอย่างถี่ถ้วนก็คล้ายจะได้ยินเสียงตะโกนแว่วมาจากไกล ๆ
เรียวคิ้วกดลงเมื่อดวงตาสีน้ำเงินหรี่ลงเพ่งมอง
+
อีกทั้งยังยังมีข้อเสียประการสำคัญคือไร้จุดสังเกตจนไม่รู้ว่าควรต้องก้าวเดินไปทิศไหนกันแน่
ไร้เงาของผู้คุม ส่วนผู้เข้าทดสอบคนอื่น ๆ ไปอยู่ที่ไหนกันหมดก็ไม่อาจรู้
"จะรู้ได้ยังไงว่าบททดสอบถัดไปที่ว่าคืออะไร..."
เงียบเสียงลงเมื่อสายลมหอบใหญ่พัดผ่าน เธอยกท่อนแขนขึ้นปิดใบหน้า รอจนกระทั่งฝุ่งละอองทั้งหลายผ่านไปจึงค่อยลืมตาขึ้น
เพื่อพบกับกะโหลกศีรษะของใครบางคน
+
#ROC_beta02 | โรลปิด
"จู่ ๆ ก็มาโผล่ที่นี่เนี่ยนะ?"
"เวทมนตร์เนี่ย... จะว่าสุดยอดหรือว่าน่ารำคาญดีล่ะ"
ร่างผอมบางโดดเดี่ยวท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุ อดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงบ้านเกิดขณะเหยียบย่างตรงไปเรื่อย ๆ
อย่างน้อยเงาจากภูเขาหินสูงชะลูดพวกนั้นก็ยังช่วยบดบังแดดได้บ้าง ต่างจากพื้นที่เปิดโล่งแบบนี้ที่ส่งผลให้แสงตะวัน ลมร้อน และฝุ่นทรายซัดสาดใส่เธอต่อเนื่องไร้หนทางป้องกัน
+
ราวกับลานแห่งนี้ได้กลายเป็นวงเวทขนาดใหญ่
ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้าง มือกระชับหอกคู่ใจและสายเชือกป่านที่เย็บติดกระเป๋าห้อย พื้นดินใต้เท้าพลันแยกออกดูดกลืนร่างของเด็กหญิงผมสีเทาอ่อนผู้วางกุญแจลงไปภายในชั่วอึดใจเดียว
ภาพทุกสิ่งดับวูบลงเช่นนั้น
[ End of STAGE 01 ; Echoes of solitude ]
'วางมันลงบนแท่น แล้วเส้นทางสู่บททดสอบถัดไปจะปรากฏขึ้นเอง'
"เจ้าคิดว่าบททดสอบถัดไปคืออะไร?"
จูนิเปอร์พึมพำขณะมองดูวัตถุในมือตนไม่วางตา
"หะ? อะไรนะ?"
แทนการตอบคำถามของเด็กคนข้าง ๆ เธอก้าวนำออกไป วางมันลงบนแท่นศิลา
อักขระโบราณเรืองแสงสีทองสว่างวาบ ไล่ลามลงจากใจกลางแท่นไปยังพื้นโดยรอบกระทั่งครอบคลุมเสาสลักทุกต้น ทั้งที่ยังสมบูรณ์และพังทลาย
+
"ใช่"
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าลำดับการวางลูกแก้วจะส่งผลอะไรรึเปล่าแต่เธอก็ไม่อยากรั้งอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้อีกแล้ว
"ทันทีที่หายเหนื่อย"
อาศัยเวลาพักในการต้มน้ำสะอาดมาล้างตัวและกรอกใส่กระบอกเพิ่ม เมื่อเรี่ยวแรงฟื้นคืนกลับมาพวกเขาก็มุ่งผ่านผืนป่าตรงกลับไปยังลานกว้างอันเป็นจุดตั้งต้นการเดินทาง
แท่นหินสูงราวหน้าอกปรากฏอยู่กลางลานทรงกลม แสงเรืองรองจาง ๆ เปล่งออกมาเป็นจังหวะ
+
จูนิเปอร์เก็บหินสีแดงส่วนของตนเองและเดินออกมาจากถ้ำ
เวลาผ่านไปนานพอสมควรแต่ยังหลงเหลือแสงอาทิตย์อยู่ หินทรงกลมขนาดเท่ากำปั้นเรืองแสงสีแดงเรื่อจาง วินาทีที่สีเงินประกายสะท้อนเข้ากระทบนัยน์ตาเด็กหญิงจึงสามารถสูดหายใจเข้าได้อย่างเต็มปอด
สำเร็จแล้ว ได้มาแล้ว
คราวนี้ไม่ใช่ของปลอม
"จะตรงไปที่ลานกว้างเลยรึเปล่า?"
เสียงทักถามดังขึ้นตามหลัง เรียกให้เธอหันกลับไปมอง
+
ผิวหน้าแลสองแขนระคายเคืองเพราะเมือกพิษ ลมหายใจติดขัดเพราะสำลักกลิ่นคาวเลือด เมื่อยล้าจนแทบจะหมดแรงแทงหอก
ในที่สุดไวริกซ์ก็ล้มลง มันหันหัวกลับไปยังรังนอนก่อนจะสิ้นฤทธิ์แน่นิ่ง บางทีอาจเป็นสัญชาตญาณความเป็นพ่อแม่ที่ห่วงลูกจนถึงท้ายที่สุด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จูนิเปอร์และเด็ก ๆ ที่เหลือรอดต้องสนใจ
"ได้มาแล้ว! รูเบธีส!!"
โชคดีที่หินสีแดงในกองไข่มีจำนวนมากพอ ทุกคนจึงไม่ต้องแก่งแย่งกัน
+
'ใครที่คิดถอยหนี ก็เตรียมพบจุดจบเช่นเดียวกัน'
จากคำพูดนั่นของทหารผู้คุม เป็นไปได้ว่าหากพวกเขาไม่อาจผ่านบททดสอบ สุดท้ายก็คงต้องถูกผลักไปสู่ความตายอยู่ดี
"เตรียมพร้อมนะ"
เด็กที่รับบทบาทหัวหน้ากลุ่มส่งสัญญาณ
และการต่อสู้ก็เริ่มต้น
อาวุธปลายแหลมทิ่มแทงกรีดฟันสร้างรอยแผลจากทุกทิศทาง ทีละเล็กทีละน้อย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปลี่ยนการเคลื่อนไหวของอสูรร้ายให้เชื่องช้าลงด้วยแผนการหลอกล่อ
+
เด็กหญิงพยายามอธิบายถึงลักษณะของมันรวมถึงพื้นที่รังให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังใช้เวลาครู่ใหญ่วางแผนและเตรียมอาวุธ จูนิเปอร์จึงได้เหยียบย่างเข้าไปในถ้ำมืดนั่นอีกครั้งพร้อมกับพวกเขา
ภายในถ้ำยังคงเต็มไปด้วยเมือกเหนียวน่าขยะแขยงและรอยกรงเล็บใหญ่น่าหวาดหวั่น กลิ่นเลือดคละคลุ้งและชิ้นกระดูกที่เกลี่ยนกราดชวนให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ทว่าก็ไม่มีเด็กคนไหนก้าวถอยหลัง
+
"เดี๋ยว"
เช้าวันที่ 6 เริ่มต้นพร้อมกับผู้เข้าทดสอบกลุ่มหนึ่งเดินทางมาถึงเขตหนองน้ำ
จูเปอร์ร้องทักก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไปในถ้ำ สองมือเปล่าชูขึ้นสูงแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ปากกล่าวบอกข้อมูลผสมปะปนระหว่างข้อเท็จจริงและคำลวงหลอก
"ในนั้นมีตัวอันตรายอยู่นะ เพื่อนของข้าถูกมันฆ่าตายหมดแล้ว"
"ถึงตอนนี้มันจะบาดเจ็บ แต่ถ้าไม่วางแผนก่อนเข้าไปพวกเจ้าเองก็คงสู้ไม่ไหวแน่"
"ร่วมมือกับข้าเถอะ"
+
วันที่ 4 และ 5 ล่วงเลยไป เด็กหญิงยังคงปักหลักอยู่ใกล้หนองน้ำ รักษาตัว ต้มน้ำดื่ม หาผลไม้ป่าประทังชีพ
ระหว่างสำรวจเธอพบก้อนผลึกสีแดงหลายลูกในป่า ทว่าพวกมันล้วนไร้ประกายและยังมีกับดักผูกติดอยู่ เป็นของปลอมไม่ต่างจากอันที่เธอเก็บได้จากยอดซากโบราณสถาน
สุดท้ายเมื่อจบวันจึงจำต้องวกกลับมาสำรวจถ้ำของมอนสเตอร์นั่นอีกครั้งและอีกครั้ง เพราะมันเป็นสถานที่แห่งเดียวที่เธอได้เห็นรูเบธีสของจริง
+
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชีวิตของจูนิเปอร์ตกอยู่ในภาวนะวิกฤต แม้อายุเพียงสิบขวบปีแต่สิ่งที่เธอประสบมาก็ทำให้ความตื่นตระหนกและความวิตกกังวลลดทอนลงทีละน้อยตามความเจ็บปวดที่ค่อย ๆ ทุเลาอาการ
ถ้าหากเด็กกลุ่มนั้นสังหารไวริกซ์ได้ก็คงดี บางทีอาจมีจังหวะให้เธอเข้าไปฉกฉวยรูเบธีสที่ปะปนอยู่ในกองไข่อสูรร้ายมาได้สำเร็จ
เด็กหญิงรอคอยด้วยใจจดจ่อกระทั่งแลเห็นแสงตะวัน
ไม่มีผู้ใดย่างกรายออกมาจากถ้ำ
+
เจ้าพวกนั้นจะเอาชนะมันได้ไหมนะ? เด็กคนอื่นที่กระจายตัวออกไปตามหารูเบธีสก็คงเจอกับตัวร้ายกาจแบบนั้นด้วยเหมือนกกัน จะมีใครชนะมันได้บ้างนะ? จะมีใครต้องตายไปบ้างนะ?
พวกพี่ ๆ เองก็จบชีวิตลงในป่านี่ด้วยรึเปล่านะ?
มวลความคิดไหล่บ่าดุจน้ำหลาก มือหงิกเกร็งกำเหรียญและอาวุธประจำกายที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนแน่นจนหงิกเกร็ง
"อุตส่าห์ออกมาข้างนอกได้แล้ว ใครมันจะไปยอมตายกันเล่า"
+
[ ประกาศปิดคอมมู ]
01.07.2025 09:59 — 👍 13 🔁 12 💬 1 📌 0[ Epilogue ]
#ROC_betaFIN
bit.ly/4l9WSPy
นับร้อยวิญญา โรยราเหลือเพียงหยิบมือ
หลุดพ้นไปจากซากปรักแห่งความพินาศ พวกเจ้าได้ถักทอชะตาขึ้นใหม่แล้ว
คราบททดสอบถึงคราอวสาน เส้นทางนั้นได้เปิดออก
จงปีนสู่หลังมังกร ทะยานสู่ฟากฟ้าอันไร้ขอบเขต
ขอต้อนรับสู่ 'เอลิเซียม'
"เจ้าพวกผู้ใหญ่ชั่ว"
30.06.2025 19:58 — 👍 0 🔁 0 💬 0 📌 0ความจริงอันว่างเปล่าที่ดูจะไม่ถูกใจผู้ฟังเท่าไรนัก เป็นเหตุให้การทารุณดำเนินต่อไปกระทั่งสติของเด็กหญิงดับวูบลง
.....
ต่อให้พูดทุกอย่างที่เคยได้ยินได้ฟังมา ข้อมูลที่แทบไม่มีประโยชน์อันใดเหล่านี้คงช่วยซื้อชีวิตข้าไม่ได้อยู่ดี เช่นนั้นก็ขอทำตัวดื้อแพ่ง ป่วนประสาทพวกมันให้ถึงที่สุดก่อนจะถูกฆ่าแล้วกัน
ฮ่าฮ่าฮ่า สมน้ำหน้านัก เจ้าพวกผู้ใหญ่ชั่ว
.....
...ท่านพี่ ข้ายังไม่อยากตาย
อย่าว่าแต่ได้รับการฝึกฝนเลย นอกจากข่าวลือที่ว่าเด็กรุ่นก่อน ๆ ตายกันไปจนหมดแล้วเธอก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโปรเจคเอจิสสักอย่าง ต่อให้อยากคายข้อมูลเพื่อยุติความทรมานก็ไม่สามารถทำได้
ไม่จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักหัวใจภักดีต่อบ้านเกิดหรือศีลธรรมอันใด
ไม่มีตัวเลือกสำหรับจูนิเปอร์เลยด้วยซ้ำ
"ข้าไม่รู้"
"ไม่รู้อะไรทั้งนั้น"
คำตอบเดิมถูกเอ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
+
มือเท้าของผู้ใหญ่โตเต็มวัย แค่เพียงเหวี่ยงกระทบก็ก่อให้เกิดอาการจุกเสียดและเจ็บร้าวไปทั้งกาย อาวุธในมือของพวกเขา บรรยากาศบีบคั้นกดดันช่างน่าหวาดหวั่น กระนั้นสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่กลับไม่ต่างอะไรจากตลกร้ายจนเธออดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะ
...สิ่งนี้เจ้าพวกนี้ต้องการคือข้อมูลทางการทหาร
มาเค้นถามเอาจากเด็กน้อยที่ถูกโยนไปสู้กับมอนสเตอร์โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างพวกข้าแล้วจะได้อะไรกัน?
+
#ROC_beta04 | Part 2
สถานการณ์แปลกประหลาด
ผืนธงที่มีลายสัญลักษณ์ประหลาด
ผู้สอบสวนสวมใส่เครื่องแต่งกายประหลาด
คำถามแสนประหลาด
และเชือกที่พันธนาการเธอไว้อย่างแน่นหนา
"เด็กอมมืออย่างพวกเจ้า เหตุใดจึงสามารถสังหารอสูรระดับสูงได้ ผ่านการฝึกอะไรมากันแน่?!"
"ตอบมาซะ! อย่าคิดว่าเราจะเมตตาเพียงเพราะเจ้าเป็นเด็ก"
การฝึก? เหอะ พูดบ้าอะไร?
+
เหรียญแห่งศรัทธาที่ได้รับมาจากแม่ชีน่ารังเกียจนั่นถูกหยิบมาใช้งาน
พลังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งบรรจุไว้ภายในช่วยเยียวยารักษาบาดแผล
น่าตลกจริง ๆ ทั้งที่เธอไม่ได้เคารพศรัทธาในพระเจ้าแท้ ๆ แต่ถ้าไม่พึ่งพาของแบบนี้ก็คงไม่อาจมีชีวิตรอดจนถึงรุ่งสาง
"ข้าจะไม่ยอม...ไม่ยอมตายหรอก"
"จะต้อง...มีชีวิต...ออกไปจากที่บ้า ๆ นี่ให้...ได้เลย"
+
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรกว่าดวงตาสีน้ำเงินจะแลเห็นแสงจันทร์สลัวที่ส่องผ่านแมกไม้ทึบลงมา
ในที่สุดเธอก็ลากร่างบาดเจ็บของตนเองพ้นจากถ้ำนั่นได้สำเร็จ
"อึ่ก...เจ็บชะมัด"
ซุกซ่อนหลบอิงกายในป่า สมองน้อย ๆ มึนเบลอเพราะอาการเสียเลือดและความเจ็บปวดที่แทบเกินทน กระนั้นก็ยังพยายามคิดหาหนทางรักษาชีวิตของตนเองไว้อย่างสุดความสามารถ
"ข้าจะ...ไม่ยอม...มาตายอยู่ตรงนี้หรอก"
+
เสียงนั่นไม่เพียงดึงดูดความสนใจจากอสูรร้าย แต่ยังช่วยดึงสติสัมปชัญญะของจูนิเปอร์ให้กลับมาด้วย
ฉวยโอกาสที่เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเขื่องหันไปโจมตีกลุ่มผู้มาใหม่ ตะเกียกตะกายหนีออกห่างจากรังของมัน
เสียงตะโกนกรีดร้อง เสียงฝีเท้า และเสียงการต่อสู้ค่อย ๆ ห่างพ้นตัว
พวกเขาต่างยุ่งกับการเอาชีวิตรอดจนไม่สังเกตเห็นเธอ จูนิเปอร์เองก็สนใจเพียงให้ตนเองมีชีวิตรอดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้เท่านั้น
+
ด้ามหอกที่ทำจากไม้พลองไม่อาจทานทนการโจมตีหนักหน่วง ไม่นานมันก็หักลงต่อหน้าต่อตาเธอ
"แย่ล่ะ-!"
ชะงักงันเพียงจังหวะเดียว ร่างของเด็กหญิงก็ถูกซัดปลิวไปกระแทกกับโขดหินอย่างจัง
บาดแผลฉกรรจ์เปิดทางให้โลหิตไหลนองแรงปะทะส่งผลให้ทั้งร่างเจ็บร้าวชาดิก
ปลาไหลตัวยักษ์เยื้องย่างประชิด อ้าปากเผยคมเขี้ยวน่าสยดสยอง เตรียมขย้ำกัดกินเหยื่อ
พลันเสียงกรีดร้องดังขึ้น
"กรี๊ดดดดด!?!!"
+
ยกอาวุธหนึ่งเดียวในมือขึ้นกำบังกั้นขวางกรงเล็บแหลมคมขณะที่พยายามร่นถอย
ด้วยเรี่ยวแรงที่น้อยนิดของเธอ คมหอกที่พุ่งออกไปถูกผิวหนังที่เคลือบด้วยเมือกลื่นจึงทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนตื้น ๆ ให้แก่มันเท่านั้น
ไร้หนทางเอาชนะ แค่จะข่มขู่ให้มันถอยหนีไปก็ยังไม่เป็นผล
แม้พยายามหลบหลีกจนไม่มีจังหวะหยุดพักหายใจแต่การเคลื่อนไหวของเด็กน้อยหรือจะเท่าทันมอนสเตอร์ซึ่งกำลังดุร้ายกราดเกรี้ยว
+