ตำนานหนึ่งเล่าขาน เนิ่นนานและเล็กจ้อย เรื่องเล่าปรัมปราจากปู่ย่าจนถึงเด็กน้อย
ตำนานเล่าขาน ว่ากาลครั้งหนึ่ง....มีเอลฟ์ผู้หนึ่งที่รักมนุษย์อย่างยิ่งยวด
พิทักษ์รักษา เคียงข้างจนหวนคืนสู่ผืนดิน
💐🪻🍃
@nilar-wyh-npc.bsky.social
Nilar Serenett | หัวหน้ากิลด์ Lunar Quartz Doc : https://shorturl.asia/dDOru NPC Account for #WyH_DG
ตำนานหนึ่งเล่าขาน เนิ่นนานและเล็กจ้อย เรื่องเล่าปรัมปราจากปู่ย่าจนถึงเด็กน้อย
ตำนานเล่าขาน ว่ากาลครั้งหนึ่ง....มีเอลฟ์ผู้หนึ่งที่รักมนุษย์อย่างยิ่งยวด
พิทักษ์รักษา เคียงข้างจนหวนคืนสู่ผืนดิน
💐🪻🍃
📜 Rursus Orbis - Week 9
[ โรลปิด w/ @surya-wyh-npc.bsky.social | โกงเวลาหลังแข่งประลอง ]
[ ⚔️ ภารกิจปราบมอนสเตอร์ - การทดลองประหลาด ]
ณ ดันเจี้ยน Forbidden
"..."
ซิกฟรีดเหลือบมองเพื่อนร่วมทางในครานี้ที่ต่างออกไปจากทุกที
แม้จะออกไปฝึกฝนด้วยกันมาก่อนแล้วในดันเจี้ยนแห่งอื่น
แต่การหวนกลับมาที่นี่อีกครั้งก็ดูจะชวนรื้อฟื้นความทรงจำบางอย่างได้ไม่น้อย...
+
“ หากเรียกทุกคนแล้วเขาแห่กันมาเล่า ”
เอฟล์หนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเสียมิได้ แต่พอนึกๆดูแล้ว หากเรียกแล้วมาทุกคนจริงเจ้ามังกรข้างกายจะเป็นลมเป็นแล้งไหมหนอ..
แม้จะอยากเห็นท่าทีของมอทัส หากแต่ถ้าตนต้องแบกร่างใหญ่โตกลับล่ะก็ลำบากน่าดู
“ มิสู้เรียกผู้ที่เจ้าอยากเจอมิดีกว่าหรือ ”
“ ข้าเพียงเรียกให้เจ้ามาดูเท่านั้นว่าข้ามิได้หลอกเจ้า ”
เสียงทุ้มเอ่ยพลางยักไหล่ ราวกับไม่คิดใส่ใจอันใดนัก สองมือที่เคยกุมหน้ามังกรหนุ่มค่อย ๆ ละออกมากอดอก
นัยน์ตาสีชาดเหลือบไปสำรวจเปลวไฟสีฟ้าตรงหน้าที่ล่องลอยไปมาช้า ๆ
“ หากอยากเรียก จงเรียกเถิด มิใช่ที่ของข้า ไม่รู้จักเรียกผู้ใด ”
“ฟีอัส
“เจ้าต้องการจะรักข้าจริงๆหรือ?”
ไซรอสถามย้ำอีกครั้ง
เขาทั้งหัวรั้น ไม่ฟังใคร หยาบกระด้าง และมีข้อเสียตั้งมากมาย เขาเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
และอีกฝ่าย ต้องการที่จะรักเขาจริงๆใช่ไหม?
“ ข้าเพียงเห็นว่ามันมาทางนี้ ” ขายาวสาวเดินไปยังจุดที่ตนเห็นทันใด นัยน์ตาสีทับทิมปรายมองรอบ ๆ พลางเท้าสะเอวอย่างไม่สบอารมณ์
เจ้าลูกไฟสีครามนั่น ลอยไปลอยมาราวกับกำลังก่อกวนกัน
ทว่าเมื่อจะละออกให้ผู้ที่เดินตามมาดู หากแต่ดวงเพลิงนั่นกลับลอยลิ่วไปทางอื่นเสียอย่างนั้น
เจ้าไฟนี่…
เรียวมือพุ่งไปจับหน้าเจ้ามังกรให้หันตามไปมองลูกไฟที่กำลังจะวิ่งไปอีกทาง
“ เห็นหรือไม่! ”
[ 🦇 Story : 1/? ]
15.07.2025 17:21 — 👍 13 🔁 12 💬 0 📌 3กุหลาบในมือถูกยื่นให้อีกฝ่าย พลางเรียกเสียงแผ่ว
“ นี่…ไซรอส ”
เสียงที่เปล่งออกมานั้นเจือไปด้วยความจริงจังมากกว่าทุกครั้ง..จนรับรู้ได้ในทันที
น้ำหนักของมืออีกข้างที่วางบนลาดไหล่กล้าง ผ้าคลุมของตนผล็อยหลุดลงไปกองบนพื้น
ก่อนริมฝีปากทาบลงบนอวัยวะเดียวกันอย่างแผ่วเบาราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ
กำลังตื่นเต้นว่ามันคืออะไร กลับกลายเป็นว่าจันทราหงุดหงิดมากทีเดียวที่เจ้าลูกไฟนั่นทำให้ตนกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปเสียแล้ว
“ ข้าหาได้หลอกเจ้า “
หากเป็นคนปกติคงขู่ให้ออกมาไปแล้ว แต่กลับของแบบนั้นคงมีแต่ต้องเผาที่นี่หาเสียแล้วกระมัง
” ลูกไฟสีฟ้า คล้ายกับไฟของข้า “
ในเมื่อไม่พบสักทีคงมีแต่ต้องเดินไปดูให้เห็นกับตา
ขายาวสาวเท้าเดินผ่านเจ้ามังกรไปอย่างรวดเร็วเพื่อแหวกหาเจ้าตัวปัญหา
“ แบบนั้นนับว่าเป็นคนในวังเจ้าไหม มอทัส ”
“ บางทีเขาอาจจะอยากทักทายเจ้า ”
นิ้วเรียวชี้ไปยังดวงไฟสีฟ้าที่ล่องลอยไปมาด้านหลังมังกรหนุ่มโดยไม่เกรงกลัวอะไรนัก
ดูจะตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำ
“ สถานะตอนนี้ย่อมใช่ แต่พวกเขาจะคิดเช่นนั้นหรือ ”
“ สถานที่ที่เจ้ามา สถานะเจ้าย่อมเป็นของเจ้า ”
ทิวากรเอ่ยตอบฉันใดจันทรานั้นไม่ย่อท้อที่จะเถียงฉันนั้น
เมื่อก้าวออกมายังสวน…
จู่ ๆ ลูกไฟสีฟ้าลูกหนึ่งก็พุ่งผ่านหน้าเขาไปอย่างฉับพลัน
นัยน์ตาสีทับทิมพลันหันควับไปมองตามมันโดยไม่คิดลังเล
” ฤทธิ์ที่อยากได้? “ เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างไม่เร่งร้อน ขณะมือยังละเมียดจัดเรียงแต่ละส่วน
” คิดไว้หรือยัง “
มือที่บดสมุนไพรอยู่อย่างละเมียดยังคงบดไปเรื่อย ๆ นัยน์ตาสีทับทิมเหลือบมองเด็กหนุ่มในโอวาทที่พึ่งเอ่ยบางสิ่งออกมา พลางกลับมามองสมุนไพรตรงหน้าที่ถูกแยกไว้อย่างเรียบร้อยตรงหน้า
คงจะอยากลองอะไรกระมัง
เรียวมือโบกให้ลมอ่อน ๆ ลากครกบดยาให้เคลื่อนไปตรงหน้าของค้างคาวหนุ่ม
ก่อนจันทราจะกลับมาสนใจส่วนของตนต่อ เรียวมือค่อย ๆ ทยอยนำผงที่ตนบดใส่ลงในโหลแก้วอย่างปรานีต
เสียงทุ้มคลอขึ้นอย่างอารมณ์ดี คล้ายกำลังเอาคืนเล็ก ๆ หลังตนเสียจังหวะไปในห้องก่อนหน้า เรียวขาเดินเคียงข้างอย่างไม่เร่งรีบ แสงอาทิตย์ยามนี้เจือด้วยสีส้มอบอุ่นของยามเย็นเสียแล้ว
“ ครานี้ข้าจักได้ปกป้องเจ้าเลยหนา ”
“ โพล้เพล้เช่นนี้ยิ่งต้องปกป้อง เจ้ารู้หรือไม่ ”
เสียงทุ้มทิ้งจังหวะให้อีกฝ่ายได้ครุ่นคิดราวกับว่าจะมีอะไรโพล่มา
ปฏิเสธไม่ได้ทีเดียวว่าการเห็นทิวากรเลิ่กลั่กนั้นน่าสนุกไม่หยอก
“ มิใช่ว่าเป็นองค์ชายห้ามพูดปดหรือ “
“ พวกเขาอาจจะไม่พอใจเรื่องนั้นก็ได้ “
เอลฟ์หนุ่มหัวเราะเบา ๆ พลางป้องปากขำกับท่าทางของอีกฝ่าย
สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยให้เจ้ามังกรจับมือเขาเดินไปอยู่ดี
“ มิดีหรอกหรือที่ข้าเสนอตัว ปกติเจ้าต้องเป็นคนคอยคุ้มกันข้าตลอด ”
นิ้วเรียวบางที่กำลังคัดแยกสมุนไพรอย่างขะมักเขม้นพลันชะงักลง
เมื่อสายตาเหลือบไปยังท้องฟ้า… เวลานี้ คงมีไม่กี่คนที่จะเข้ามาหา
“ เข้ามา ”
เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยอย่างเรียบง่าย ขณะที่มือเปลี่ยนจากสมุนไพรในตะกร้ามาหยิบครกใบเล็ก
จันทราไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงพยักหน้าให้ค้างคาวหนุ่มที่เดินเข้ามานั่ง — เพื่อคัดแยกสมุนไพรแทนตน ที่กำลังจะเริ่มบดยา
นัยน์ตาสีชาดหรี่ลง มองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ คำว่า ‘ไม่กลัว’ ที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมานั้น… ฟังอย่างไรก็ชวนให้กังขาอยู่ดี
“พูดปดเช่นนี้—ระวังเถิด วิญญาณบรรพบุรุษจะมิพอใจหนาองค์ชาย”
เสียงทุ้มเอ่ย แถมยังย้ำคำว่าองค์ชายอย่างเต็มปากเต็มคำ ใบหน้างามพยักเพยิดให้อีกฝ่ายเดินนำไปก่อน
“เดินไปเสีย ข้าจะทำหน้าที่องครักษ์เอง”
“อย่างน้อย…จะได้ไม่มีใครมา ‘แตะหลัง’ เจ้าโดยไม่รู้ตัว”
ทว่ายังไม่ทันได้ดุให้จบประโยค ลมก็พลันโชยผ่านเข้ามาอีกระลอก เสียงหวีดหวิวลอดผ่านช่องลมจนคล้ายเสียงโหยหวนของบางสิ่ง ชวนให้จินตนาการไปไกลทีเดียว
” และเราคงจะได้นอนบนเตียงของเจ้าแทนจะกลับเมือง พร้อมกับเสียงนั่นมากล่อมนอน “
ระหว่างนั้นเมื่อคิดกลับไปกลับมาแล้ว—เหมือนเขาหวังให้เจ้านี่มาจูบชัด ๆ เลย..
อดสูชะมัด
นีลอาร์ปล่อยให้เจ้ามังกรกอดอยู่พักหนึ่ง เมื่อยังไม่เห็นทีท่าว่าจะผละห่าง จันทราที่กำลังไม่สบอารมณ์(กับตนเอง)จึงยกมือขึ้นมาทุบหลังทิวากรดังอั่ก
“ ปล่อยข้า “
” หากกลัวก็ออกไปจากที่นี่ มิเช่นนั้นมันจักมืด “
เมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมา ริมฝีปากก็ยิ่งขยับเข้าใกล้เรื่อย ๆ นัยน์ตาสีทับทิมหลุบลงอย่างไม่รู้ตัว ราวกับยอมรับทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้
ทว่า— สิ่งที่มาถึงนั้นมิใช่ที่คิด แขนแกร่งกลับโอบเอวตนไปกอดแนบชิดเสียอย่างนั้น
เจ้าหมอนี่… เล่นกับใจคนเก่งเสียจริง 💢
ใบหน้าเรียววางแหมะลงบนไหล่แกร่งที่กอดมาพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ผละออก แต่ก็มิได้กอดตอบ
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอยากจะเป็นคนขี้กลัวเหลือเกิน เพียงเพื่อจะได้ไม่ต้องสนใจกับท่าทีของเราสองคนในตอนนี้
นีลอาร์เม้มปาก ใบหน้างามขึ้นริ้วแดงระเรื่อจาง ๆ ก่อนจะหลุบตาเอ่ยเสียงเรียบ คล้ายบ่นให้เจ้าคนตรงหน้าได้สติขึ้นมาบ้าง
“หากเจ้ากลัว… เจ้าจะมาที่รกร้างเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“แค่เชิงเทียนเจ้ายังทำเป็นเรื่องใหญ่ หากมาเป็นตัวเต็ม ๆ จะไม่เป็นลมไปเลยหรือ?”
มัน.. น่าเขินไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อทิวากรขยับเข้าใกล้อีกนิดเพื่อคลำหาอะไรสักอย่าง เสียงเสียดสีของอาภรณ์ที่ต้องกันในระยะประชิดดังขึ้นในความเงียบ ไหนจะเสียงหัวใจเต้นของตนเองที่มันแทบจะหลุดออกมา รบกวนโสตประสาทของนีลอาร์อย่างชัดเจน
เสียงมันดังยิ่งกว่าเสียงเชิงเทียนที่เขาควรจะจดจ่อด้วยซ้ำ
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้คิดด้วยซ้ำว่าควรจะรู้สึกอย่างไร
ทิวากรในตอนนี้อยู่ในท่าทีที่ชวนให้คิดไปไกล และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ —เห็นดังนั้นเรียวมือเอื้อมไปจับไหล่กว้างของอีกฝ่ายไว้ ประคองตนไม่ให้ล้มไปเสียก่อน
ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมองภาพตรงหน้า ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
“ ลานัวร์บอกว่า เพียงลมน้อย ๆ ก็สื่อถึงพวกเขาแล้ว ”
“ เรื่องเห็น— มิเห็นดอก แต่ตอนไปกับลานัวร์ครั้งวัยเยาว์นั้น เคยเจอกับเหตุการณ์บ่อยครั้ง ”
“ ดอกไม้บนหลุมตก หรือแม้แต่เสียงกระซิบแปลกประหลาดหาที่มามิเจอ ”
ร่างโปร่งเอียงตัวไปช้า ๆ สบมองตามไปยังเตียงที่ว่างเปล่าที่มังกรหหนุ่มชี้— นัยน์ตาสีทับทิมเหลือบไปมองคนข้างกายว่ากลัวหรือไม่
“ แม้แต่เสียงร้องไห้คร่ำครวญก็ยังมีเลยหนา… ”
คิดไปเองจริงเสียด้วย…
จันทราพยักหน้ากับตนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับคำถามที่ได้รับ พลางตรองอยู่ชั่วครู่
“อืม… ตัวข้าไม่อาจบอกได้ว่าตนเชื่อ หรือไม่”
“ข้ามิเคยสูญเสีย—จึงไม่รู้จักการโหยหาที่จะรำลึกถึง”
เขาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา ทว่าหาได้หมายขัดแย้งผู้คนที่มีใครให้คิดถึง หากแต่เพียงแบ่งปันความจริงเท่านั้น
แขนเรียวเท้าเอว พลางครุ่นคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณที่เคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง
ขอดูอีกสักหน่อยให้แน่ใจ..
แต่—พอมาลองคิดดูแล้ว ไอประโยคที่ว่าข้ารู้ว่าเป็นเจ้า ดูเป็นสหายที่สนิทกันแน่นแฟ้นอย่างปกติไม่ใช่หรือยังไง
สหายย่อมจำกันได้
บางทีคงจะคิดไปเองจริง ๆ
นัยน์ตาคู่งามสบประสานก่อนเจ้าตัวจะเอียงคอมองอย่างเป็นเชิงถามอย่างหยอกล้อ
“ องค์ชายช่างใส่ใจสหายนัก ”
เมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมา กลุ่มผมสีอ่อนกลับร่วงลงมาปรกใบหน้าคมคาย เรียวนิ้วเอื้อมแตะอย่างแผ่วเบา จัดผมนั้นให้เข้าที่ ก่อนจะค่อย ๆ ทัดไว้หลังใบหูอย่างเบามือ
“ หากวิญญาณบรรพบุรุษเจ้ามาได้ยินเข้าคงคิดว่าเจ้าเกี้ยวข้าเป็นแน่ “ เสียงทุ้มเอ่ยทีเล่นทีจริงเพื่อดูปฏิกิริยาของทิวากรอีกครา
แม้จะตอบออกไปเช่นนั้น แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพของอีกคน จินตนาการว่าไอเดนในเสื้อตัวใหม่ เสื้อแขนยาวสีเข้มที่เขาแอบหยิบไว้ หรือแม้แต่เสื้อคอกว้างตัวหลวมที่เขาเผลอนึกภาพว่ามันจะเผยไหล่กว้างของอีกฝ่ายได้ยังไงบ้าง
เกลนน์รีบเบือนหน้ากลับไปที่ราวแขวนเสื้อก่อนความคิดจะเลยเถิดไปกว่านั้น
+
#SnowBloom_Roses_WyH
[โรลปิด with @phias-wyh.bsky.social ]
ท่ามกลางความหนาวเหน็บ บ้านหลังน้อยที่มักจะดูอบอุ่นดั่งทุกๆวัน วันนี้ผู้เป็นของ ดูท่าจะพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะทำให้มันเป็นที่กำบังแสนสมบูรณแบบในฤดูกาลเช่นนี้
เจ้ามนุษย์มังกร นั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาวขนาดใหญ่ ที่ตอนนี้ดูพอดีตัว เสื้อผ้าที่ใส่ดูมิดชิดและหนาแน่นกว่ายามปกติ
+
เอ็นดู 55555555
07.07.2025 16:14 — 👍 0 🔁 0 💬 0 📌 0